-->

ผู้เขียน หัวข้อ: 10 ปริศนาการหายสาบสูญที่เราไม่ค่อยรู้จัก  (อ่าน 2591 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18349
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

10 ปริศนาการหายสาบสูญที่เราไม่ค่อยรู้จัก   

บนโลกของเรานั้นมีเรื่องราวปริศนามากมาย บางอันก็น่าพิศวง บางอันก็น่ากลัว น่าสยดสยอง ลึกลับ
โดยเฉพาะเรื่องราวการหายตัวนั้นเป็นปริศนาที่น่ากลัวที่สุดของโลกเรามาช้านาน ตั้งแต่อดีตและปัจจุบัน
มีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นมากมาย


10. The Flannan Isles lighthouse keepers



หนึ่งในกรณีของการหายสาบสูญที่น่าพิศวง ก็คือกรณีเหตุเกิดที่เกาะฟรานแนน ซึ่งเป็นเกาะเล็กแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจาก
สกอตแลนด์ประมาณ 20 ไมล์ โดยเกาะแห่งนี้มีสิ่งก่อสร้างที่เป็นจุดเด่นก็คือประภาคารสูงกว่า 23 เมตร
ที่สร้างขึ้นระหว่าง 1895 และ 1899 และสถานที่แห่งนี้เองได้เกิดเรื่องลึกลับขึ้น เมื่อในวันที่ 15 ธันวาคม 1900

เรือกลไฟที่ผ่านเกาะแห่งนี้ในสภาพอากาศเลวร้ายได้สังเกตว่าแสงไฟจากประภาคารไม่ได้ส่องนำทางให้แก่เรือของพวกเขา
ทั้งที่ในประภาคารเวลานั้นมีเจ้าหน้าที่ประภาคารสามคนผลัดเปลี่ยนเวรอยู่ ต่เนื่องด้วยตอนนั้นสภาพอากาศเลวร้าย
ทำให้พวกเขาไม่ได้ขึ้นไปตรวจสอบ จนกระทั้งวันต่อเมื่อมีตรวจสอบประภาคารก็พบว่ายามทั้งสามคนได้หายตัวไปอย่างลึกลับ
โดยทิ้งหน้าที่ของพวกเขาเอาไว้ ที่น่าลึกลับก็คือประตูทางเข้าประภาคารได้ถูกปิดลง นาฬิกาหยุด เตียงถูกทำลาย
เครื่องครัวของทุกคนสะอาดแสดงว่าเขาน่าจะหายไปหลังอาหารค่ำ


แม้หลายฝ่ายจะมีการค้นหาสามยามดังกล่าวจากหน้าผาหรือในน้ำแต่ก็ล้มเหลว หลายคนเชื่อว่าสามคนที่หายไปนั้น
เกิดจากพายุจากสภาพอากาศที่เลวร้าย หรือจากปรากฏการณ์ลึกลับเหนือธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น ถูกมนุษย์ต่างดาวลักพาตัว
งูทะเลยักษ์คาบไปกิน หรือไม่ก็ทั้งสามถูกลักพาตัวโดยสายลับต่างชาติ





9. Katz II



ในปี 2007 มีการพบ เรือยอร์ช Katz II ยาว 9.8 เมตร ถูกทิ้งนอกชายฝั่งของรัฐควีนส์แลนด์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ
ของประเทศออสเตรเลียในเดือนเมษายน เรือยอร์ชดังกล่าวได้ออกจากหาดแอร์ลีบิซเมื่อวันอาทิตย์ 15 เมษายน
แล่นไปประมาณ 80 ไมล์ทะเล(150กิโลเมตร) ก่อนที่จะหยุดแถวปะการังเกรท แบริเออร์ รีฟ (แนวปะการังใหญ่)
และถูกพบโดยเจ้าหน้าที่ทางทะเล

เมื่อพวกเขาสำเร็จเรือก็พบว่าคนบนเรือสามคนหายไปหมด ในขณะที่เสื้อชูชีพและอุปกรณ์ช่วยรอดชีวิตอยู่ในเรือ
อีกทั้งเครื่องยนต์ยังทำงานเป็นปกติ(เสียหายไปบ้างแต่ไม่ถึงขั้นรุนแรง) วิทยุสื่อสารก็ปกติ ทิ้งงานค้างเอาไว้
และอาหารยังอยู่บนโต๊ะ ราวกับว่าลูกเรือหายไปอย่างทันทีทันใด


จากการค้นหาลูกเรือทั้งสามก็ล้มเหลว ที่น่าพิศวงก็คือที่รอบๆ พื้นที่ดังกล่าวไม่มีเรือหรือแพลำไหนเลยลอยอยู่
ส่วนภาพเป็นรูปถ่ายวีดีโอตอนที่มีลูกเรืออยู่ก่อนที่จะหายตัวไป จากการตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด
จากเหตุการณ์ดังกล่าวหลายคนเปรียบเทียบว่าเหมือนเหตุการณ์คนหายในเรือแมรี่เซเลสเต้ เลยทีเดียว
ส่วนคำอธิบายของสาเหตุดังกล่าวก็มีหลากหลาย เช่นเรืออาจเจอสภาพอากาศเลวร้ายฉับพลัน ถูกคลื่นประหลาดพัด
ถูกพายุโฉบ ฯลฯ





8. Pilot Felix Moncla Lost Chasing UFO



การหายสาบสูญที่น่าพิศวงหลายกรณีนั้น มักมีเรื่องเหนือธรรมชาติเกี่ยวของอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องของมนุษย์ต่างดาว
อย่างเรื่องกรณีของเฟลิกซ์ นักบินที่ไล่ตาวัตถุบินลึกลับก่อนที่จะหายสาบสูญไปอย่างไม่มีวันกลับ

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อตอนเย็นของวันที่ 23 พฤศจิกายน 1953 สถานีป้องกันทางอากาศของสหรัฐได้พบเรดาร์
ว่ามีวัตถุไร้ที่มาที่ซูล็อกใกล้ทะเลสาบสุพีเรีย มิชิแกน ใกล้กับชายแดนสหรัฐและแคนาดา พวกเขาเลยส่งเครื่องบิน
ควบคุมโดยมีคนขับคือเฟลิกซ์ ส่วนโรเบิร์ตเป็นคนปฏิบัติการจอเรดาร์ เครื่องบินออกจากฐานทัพอากาศคินรอส
และพยายามตามรอยเป้าหมายลึกลับบนเรดาร์นั้น




โดยวัตถุลึกลับดังกล่าวบิน ด้วยความสูง 8000 ฟุตจากพื้นดิน ระหว่างนั้นสัญญาการสื่อสารมีปัญหาเล็กน้อย
โดยเครื่องบินของเฟลิกซ์ได้บินไปจนถึงเป้าหมายลึกลับ ต่อมาก็เกิดเรื่องลึกลับขึ้นเมื่อภาพจอเรดาร์ปรากฏว่า
เครื่องบินได้รวมตัวเป็นหนึ่งตัวกับวัตถุลึกลับนั้น(เชื่อกันว่าเครื่องบินอยู่ใกล้เป้าหมายมากจนเกือบเชื่อว่าเครื่องบินถูกชน)
และหลังจากนั้นสัญญาณเครื่องบนและวัตถุลึกลับก็ได้หายไป

แม้ว่าจะมีพยายามติดต่อตัวนักบินทางวิทยุก็ไม่สำเร็จ จากนั้นก็มีการค้นหาและกู้ภัยแต่ก็ไม่พบร่องรอยซากเครื่องบิน
หรือตัวนักบินเลย ซึ่งต่อมาหลายฝ่ายได้ขนานนามเหตุการณ์นี้ว่า "เหตุการณ์คินรอส" จากนั้นก็มีแถลงการณ์จากกองทัพอากาศ
โดยตอนแรกเชื่อว่านักบินเกิดอากาศวิงเวียนศีรษะจนเกิดอุบัติเหตุในทะเลสาบ หรือไม่ก็เกิดแรงระเบิด

หากแต่หลายคนไม่เชื่อเพราะไม่มีการพบซากเครื่องบิน และเชื่อว่าเป็นฝีมือของจานบิน ล่าสุดบริษัทเรือดำน้ำของมิชิแกน
ได้ออกมายืนยันว่าพวกเขาได้พบซากเครื่องบินและยูเอฟโอ หากแต่การค้นหานี้ได้ถูกระงับและออกมาแถลงการณ์ว่า
เป็นเรื่องหลอกลวง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 เมษายน 2012, 11:02:33 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18349
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
Re: 10 ปริศนาการหายสาบสูญที่เราไม่ค่อยรู้จัก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 16:24:24 »

7. rederick Valentich’s Disappearance



เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 21 ตุลาคม 1978 ขณะที่เฟรเดอริก วาเลนติช นำเครื่องบินส่วนตัว Cessna 182
ขึ้นบินจากกรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย มุ่งหน้าไปยังเกาะคิงไอแลนด์ ขณะที่บินอยู่เหนือมหาสมุทร

ขาแจ้งไปยังหอบังคับการการบินว่ามีเครื่องบินลำอื่นเคลื่อนที่อยู่ในระดับ ความสูงเดียวกับเขา หากแต่หอบังคับการการบิน
แจ้งกลับไปว่าไม่มีเครื่องบินลำอื่นบินอยู่ในระดับความสูงนั้น แต่เฟรเดอริกยังยืนยันว่ามันบินอยู่ห่างจากเขาไปแค่ 300 เมตรเท่านั้น
แต่รูปร่างมันไม่เหมือนเครื่องบินชนิดใดที่เขาเคยเห็นมาก่อน มันมีลำตัวยาวมากและเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง




30 วินาทีต่อมา เฟรเดอริกรายงานว่า เครื่องบินประหลาดบินเคลื่อนตัวมาประชิดกับเขา มันมีลักษณะเป็นโลหะมันวาว
มีไฟสีเขียวบนลำตัว จู่ๆมันก็บินหายไปจากสายตา การติดต่อขาดหายไปเป็นเวลา 28 วินาที เฟรเดอริกรายงานอีกครั้งว่า
เครื่องบินลึกลับบินกลับมาประชิดเขาอีกครั้ง และเขาได้พูดประโยคหนึ่งที่ยังคงลึกลับจนถึงปัจจุบันว่า

"มันกำลังลอยตัว มันไม่ใช่เครื่องบิน"

เฟรเดอริกเงียบเสียงไป แต่เสียงบรรยากาศแวดล้อมบ่งบอกว่าเครื่องส่งวิทยุยังคงทำงานอยู่ เสียงคล้ายโลหะขัดสีกัน
ดังอยู่นาน 17 วินาที และมันคือเสียงสุดท้ายที่หอบังคับการบินได้บันทึกเอาไว้ เฟรเดอริกไม่ได้ติดต่อกลับมาอีก
เขาไม่ได้นำเครื่องลงจอดที่เกาะคิงไอแลนด์ ทั้งเฟรเดอริกและเครื่องบินหายสาบสูญไปเฉยๆ และไม่มีใครพบเห็น
ตัวเขานับจากนั้นเป็นต้นมา

มีผู้พยายามอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเฟรเดอริกเกิดประสาทหลอนขับ เครื่องบินตีลังกากลับหัว มองเห็นเงาสะท้อน
ของเครื่องบินตัวเองบนผิวทะเลและคิดไปว่าเป็นเครื่องบินลำ อื่น แต่ไม่มีใครสามารถอธิบายเสียงโลหะเสียดสีกัน
ในช่วง 17 วินาทีสุดท้ายของการติดต่อทางวิทยุได้





6. Vanished Cripple



โอเว่น พาร์ฟิตต์ชายอายุ 60 ปี ได้ป่วยเป็นอัมพาตเนื่องจากโรคหลอดเลือดสมองใหญ่ ในเดือนมิถุนายน 1763
ที่เซฟดัน มาร์เลท ประเทศอังกฤษ โอเว่นนั่งนอกบ้านของน้องสาวของเขาซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันที่เขามักทำเสมอ
ในตอนเย็นที่อากาศอบอุ่น

ตอนนั้นเขาใส่ชุดนอนและผ้าคลุมนั่งเงียบๆ ไม่สามารถขยับไปไหนได้ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับถนนเป็นฟาร์มที่ตอนนั้นคนงาน
กำลังเสร็จสิ้นภารกิจในการจัดการกองฟาร์มอยู่ ต่อมาเมื่อถึงเวลา 7:00 PM น้องสาวของโอเว่นที่ชื่อ ซูซานนาห์ พาร์ฟิตต์
กำลังจะออกไปข้างนอกกับเพื่อน และเธอได้ไปหาโอเว่นเพื่อพาเขาเข้ามาในบ้านเนื่องจากพายุกำลังจะเข้า


หากแต่แล้วเธอกับพบว่าเขาหายไป เหลือแต่เสื้อคลุมที่เขาพับไว้ที่นั่งเท่านั้น จากการสอบสวนก็ไม่พบอะไรทั้งสิ้น
แม้แต่ร่างเขาของ จนกระทั้งสิ้นสุดลงใน 1933 ปี และจนบัดนี้ไม่มีร่องรอยหรือเบาะแสโอเว่น

 



5. Time Tunnel



ในปี 1975 มีชายคนหนึ่งชี่อไมเคิ่ล ไรท์ กำลังขับรถโดยมีภรรยามาร์ธ่านั่งมาด้วย พวกเขาขับรถจากนิวเจอร์ซีย์เพื่อยังนิวยอร์ก
โดยระหว่างทางพวกเขาต้องผ่านอุโมงค์ลินคอล์น และเมื่อไมเคิ่ลขับรถผ่านอุโมงค์แล้วเขาได้เช็ดไอน้ำที่ติดกระจกหน้ารถออก
และภรรยาก็อาสาจะทำความสะอาดกระจกด้านหลังด้วยเพื่อให้รถพร้อมที่จะเดินทางต่อ


และเมื่อไมเคิ่ลทำความสะอาดเสร็จเขาก็หันกลับไปก็พบว่าภรรยาของเขาได้หายไป ซึ่งเขาไม่ได้ยินหรือเห็นอะไรผิดปกติเลย
จากการสืบสวนภายหลังไม่พบสิ่งปกติอะไรและในอุโมงค์แห่งนั้น และไม่มีใครพบเห็นมาร์ธ่าอีกเลยไม่ว่าจะเป็นศพหรือตัวเป็นๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 เมษายน 2012, 10:46:05 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18349
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
Re: 10 ปริศนาการหายสาบสูญที่เราไม่ค่อยรู้จัก
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 16:29:06 »

4. The Norfolk Regiment



ตำนานการหายตัวสาบสูญของกองทัพทหารทั้งกองทัพ จากคำบอกเล่าของพยานซึ่งเป็นทหารสามนาย
ยังคงความลึกลับมายาวนานตลอด 50 ปี โดยเรื่องเริ่มขึ้นเมื่อปี 1915 ในสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

โดยตอนนั้นพยานสามนายซึ่งเป็นสมาชิกของบริษัทนิวซีแลนด์ได้มองดูกองทหาร Norfolk
(เป็นกองทหารราบของอังกฤษ) กำลังเดินขบวนสวนสนามอยู่ในตุรกี เดินอยู่แถวหน้า ข้างเทือกเขา
Suvla Bay จู่ๆ ก็มีหมอกหรือเมฆประหลาดเคลื่อนตัวลงต่ำปกคลุมอยู่ทั่วอย่างช้าๆ ทำให้มองไม่เห็น
กองทัพดังกล่าว


หลังจากที่ทหารคนสุดท้ายผ่านเข้าไปในหมอกดังกล่าว และเมื่อหมอกหรือเมฆเลื่อนออกจากข้างภูเขา
และหายไปปรากฏว่าทหารหายไปทั้งกองทัพ โดยไม่สามารถอธิบายได้ว่าเรื่องแปลกประหลาดเหนือธรรมชาติ
ที่ไม่สามารถอธิบายได้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร

ตอนแรกรัฐบาลอังกฤษเชื่อว่าทหารของพวกเขาถูกพวกตุรกีจับไป หากแต่ทางการตุรกีปฏิเสธ
และจนบัดนี้เราก็ไม่ทราบข่าวกองทัพทหารอังกฤษทั้งกองทัพแม้แต่น้อยเลยนับจากวันนั้น






3.The Legend of David Lang



นี่คือหนึ่งในการหายสาบสูญที่มีชื่อเสียง เมื่อเดือนกันยายน 1880 ที่ฟาร์มแห่งหนึ่งในเมืองกัลลาติน มลรัฐเทนเนสซี
ได้เกิดเรื่องประหลาดต่อหน้าต่อตาพยานหลายคน เมื่อเด็กน้อยชื่อ ยอร์ช อายุ 8 ขวบ และซาร่าห์ แลง อายุ 11 ขวบ
เล่นกันอยู่บ้านของพ่อแม่พวกเขาเดวิดและเอ็มม่า

ตอนนั้นเดวิดได้ออกมาทางประตูหน้าบ้านและเดินผ่านข้ามทุ่งเลี้ยงสัตว์ โดยบอกกับภรรยาว่าอีก 2-3 นาทีเขาจะกลับ
ในตอนรถม้าที่เพื่อนของเดวิดซึ่งเป็นผู้พิพากษา ชื่อออกัสท์ เป็ค มุ่งหน้ามายังบ้านเขาเห็นเดวิดโบกมือให้ออกัสท์
แล้วเขาก็เดินกลับบ้าน เพื่อเตรียมต้อนรับเขา และเวลานั้นเองร่างทั้งร่างของเดวิด แลง ก็หายวับไปต่อหน้าต่อตาบุคคลทั้งหมด
ราวกับล่องหนไปเฉยๆ


นางแลงร้องกรี๊ดสุดเสียง ในขณะที่บุตรของนางทั้งสองคนยืนตะลึงจังงังพูดไม่ออก แต่แล้วโดยสัญชาตญาณ
ทุกคนออกวิ่งไปยังจุดที่เห็นแลงยืนอยู่เมื่อครู่นี้ ผู้พิพากษาเป็คและน้องเขยซึ่งมากับรถม้ารีบก้าวลงและวิ่งข้ามทุ่งนา
ไปเกือบจะพร้อมๆกัน ในจุดที่เดวิดหายไม่มีหลุมอะไรเลยแม้แต่น้อย

จากการค้นหาก็ไม่พบอะไรที่จะเกี่ยวข้องกับเดวิดแม้แต่น้อย เรื่องราวยังไม่จบเวลาผ่านไป 7 เดือน เหตุประหลาดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
ในเดือนเมษายน 1881 ลูกชายหญิงทั้งสองของเดวิด แลง ออกไปเล่นยังจุดที่พ่อของพวกเขาหายตัวไป ได้สังเกตว่า
มีวงหญ้าสีเหลืองบริเวณบริเวณดังกล่าวที่ล้มและร่วงจนกลายเป็นวงกลมมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 15 ฟุต
เห็นได้ถนัดชัดเจนอย่างประหลาด แล้วเด็กทั้งสองก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังจากวงหญ้าสีเหลืองดังกล่าวว่า


"ซาร่าห์...ยอร์ช ช่วยพ่อด้วย...ช่วยด้วย"




2. The Stonehenge Disappearance



กองหินประหลาด Stonehenge ของประเทศอังกฤษเองก็มีเรื่องราวการหายสาบสูญลึกลับเหมือนกัน
โดยในเดือนสิงหาคม ในปี 1971 ซึ่่งในช่วงเวลานั้น Stonehenge ยังไม่ได้รับคุ้นครองจากทางการ
ทำให้มีหลายคนเข้ามายุ่งย่ามกับกองหินดังกล่าวหลายครั้ง

จนกระทั้งวันหนึ่งมีกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า "Hipples" ได้เข้ามากางเต็นท์ที่กองหินดังกล่าว ตรงจุดศูนย์กลาง
และ พวกเขาได้ตั้งหม้อทำอาหารและนั่งรอบๆ สูบบุหรี่ และเล่นเกมรอบกองไฟ จนกระทั้งเวลาประมาณสองทุ่ม
จู่ๆ ก็มีเสียงฟ้าร้องรุนแรง ลมแรง และฟ้าผ่าลงในพื้นที่ตรงจุดศูนย์กลางของกองหิน ทำให้ต้นไม้บริเวณดังกล่าวเสียหาย




และตอนนั้นเองมีพยานสองคนซึ่งเป็นชาวนาและตำรวจได้เห็นกองหินประหลาดมีแสงสว่างสีน้ำเงินจ้าจนแสบตา
และพวกเขาก็ได้สินเสียงกรีดร้องจากกองหินประหลาดดังกล่าว ซึ่งตอนแรกพวกเขานึกว่าเป็นเสียงร้องเรียก
ขอความช่วยเหลือเพราะได้รับบาดเจ็บจากฟ้าผ่าดังกล่าว

และเมื่อทำการสำรวจดู ปรากฏว่าพวกเขาไม่พบใครเลยแม้แต่คนเดียวในกองหินประหลาดดังกล่าว
พวกเขาหายตัวไปราวกับอากาศธาตุ ไม่มีแม้แต่ชิ้นส่วนศพใดๆ ปรากฏเลยแม้แต่น้อย ทั้งๆ ที่พวกเขายืนยันว่า
ในเวลาดังกล่าวพวกเขายังเห็นคนทั้งกลุ่มอยู่กลางกองหินประหลาดก่อนที่จะหายไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 เมษายน 2012, 10:54:47 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18349
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
Re: 10 ปริศนาการหายสาบสูญที่เราไม่ค่อยรู้จัก
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 11 เมษายน 2012, 16:31:32 »

1. The Village That Disappeared



ไม่มีเรื่องราวหายสาบสูญไหนที่จะลึกลับประหลาดและน่ากลัวเกินไปกว่าการหายสาบสูญของคนทั้งหมู่บ้าน
กว่า 2,000 คน ที่มีทั้งผู้ชาย เด็กและผู้หญิง

โดยเรื่องราวเริ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 1930 เมื่อนายพรานคนหนึ่งชื่อ Labelle ได้นำขนสัตว์ที่ล่ามาได้มาขาย
ในหมู่บ้านชาวเอสกิโมที่ตั้งอยู่ข้างทะเลสาบ Ankikuni ในแคนาดาตอนเหนือ นายพรานคนดังกล่าวคุ้นเคย
กับหมู่บ้านนี้ดีว่ามีชาวบ้านกี่คน แต่ละคนมีนิสัยอย่างไร


อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาไปถึงกลับพบว่าหมู่บ้านดังกล่าวรกร้าง ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเลย
จากการสำรวจกระท่อมก็ยิ่งน่าตกใจของว่าบางกระท่อมปรากฏว่าเคยมีหลักฐานว่ามีคนอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน
บางกระท่อมมีไฟกำลังเผาไหม้บนหม้อที่กำลังตุ๋นเนื้อจนดำ

นายพรานคนดังกล่าวตกใจเรื่องนี้มากจึงแจ้งทางการให้ลงมือสืบสวนและตรวจสอบ หากแต่เมื่อทำการค้นหาพื้นที่
โดยรอบอย่างละเอียดพวกเขาไม่พบร่องรอยหรือหลักฐานอะไรทั้งสิ้น ไม่มีแม้กระทั้งซากศพชาวเอสกิโมที่ฝังอยู่ในใต้หิมะ
หรือรอยเท้าแต่อย่างใด หลักฐานที่พอเป็นไปได้ก็คือซากศพสุนัขเลี้ยงที่ถูกอดอาหารจนตายที่ถูกฝังใต้พื้นหิมะ 15 ฟุตเท่านั้น
ทำให้เชื่อได้ว่าพวกเขาได้สละหมู่บ้านอย่างเร่งด่วนจนลืมแม้กระทั้งสุนัขตนเอง หรือเกิดเหตุการณ์อะไรที่ทำให้คนหายไป
จากหมู่บ้านกะทันหัน



และที่น่าสุดพิศวงที่สุดก็คือเมื่อพวกเขาทำการสำรวจสุสานบรรพบุรุษของหมู่บ้านเอสกิโมปรากฏว่าว่างเปล่า
โดยทฤษฏีที่น่าเชื่อที่สุดก็คือถูกมนุษย์ต่างดาวลักพาตัว แต่จนบัดนี้ปริศนาการหายสาปสูญหมู่บ้านเอสกิโม
ก็ไม่มีคำตอบแต่อย่างใด


cradit :: toptenthailand.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 เมษายน 2012, 10:59:03 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

alesandro

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 116
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 ปริศนาการหายสาบสูญที่เราไม่ค่อยรู้จัก
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 18 เมษายน 2012, 23:08:02 »

มะนุดต่างด้าว

jcmx

  • Super Guest
  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 288
  • Country: au
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 ปริศนาการหายสาบสูญที่เราไม่ค่อยรู้จัก
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 20 เมษายน 2012, 20:01:24 »

มะนาวต่างดุ๊ด
ไม่สนับสนุนให้คนมีเซ็กซ์กัน กรุณาอย่าเอาเรื่องจริงมาโพส ขอเฉพาะเรื่องที่แต่งขึ้นเท่านั้น

dog007

  • แอบหื่น
  • ***
  • กระทู้: 48
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 ปริศนาการหายสาบสูญที่เราไม่ค่อยรู้จัก
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 27 มิถุนายน 2012, 01:09:24 »

มีงี้ด้วย เหรอ ! eta32

nat2029

  • คณะสำรวจ
  • *
  • กระทู้: 642
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 10 ปริศนาการหายสาบสูญที่เราไม่ค่อยรู้จัก
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2012, 09:02:55 »

เป็นสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ wq