-->

ผู้เขียน หัวข้อ: Plan 9 from Outer Space (1959) สุดยอดหนังห่วยที่สุดในโลกตลอดกาล  (อ่าน 479 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18349
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

Plan 9 from Outer Space (1959) สุดยอดหนังห่วยที่สุดในโลกตลอดกาล



นี้คือ"หนังแย่ที่สุดตลอดกาล" (Worst movie ever made)
สร้างโดย "ผู้กำกับที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยมี" (The worst director ever)
จนไม่มีหนังและผู้กำกับไหนกล้าที่จะล้มแชมป์จนถึงปัจจุบัน


หนังนี้สร้างโดย Ed Wood ผู้กำกับหนังเกรดบีแห่งยุค 50 ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้กำกับที่ทำหนังได้เลวร้ายที่สุดตลอดกาล
โดยการโหวตจากคนทำหนังและคนดูทั่วสารทิศ รวมถึงรางวัลประหลาดที่ชื่อ The Golden Turkey Awards ที่สร้างขึ้นมาเพื่อประจานหนังแย่ๆ
โดยเฉพาะWood นั้นเป็นผู้กำกับที่ใฝ่ฝันจะทำหนังมาตลอดชีวิต พี่แกเดินเข้าเดินออกโรงถ่ายประจำเพื่อดูการถ่ายทำหนัง หรือไม่ก็พยายาม
รู้จักคนให้เยอะๆ แว่บย่องเข้าโรงถ่ายแอบเก็บฟุตเตจที่กองถ่ายไม่ใช้มาประกอบการทำหนังของเขา ครั้นพอมีโอกาสได้ทำหนังขึ้นมาจริงๆ
ผลงานของเขาโดยมากก็ไม่เข้าเป้าเข้าตาคณะกรรมการสักเท่าไหร่ แล้วไม่ใช้เป็นแค่เรื่องเดียว ต้องเรียกว่าแทบทุกเรื่องที่พี่แกทำนั้น
โดนชาวบ้านด่าไม่มีดีแม้แต่เรื่องเดียว


แต่เขาก็ไม่เคยย่อท้อครับ ยังคงผลิตผลงานออกมา และ Plan 9 from Outer Space คืองานชิ้นที่เขาหมายมั่นว่าต้องดัง อีกนัยหนึ่ง
นี่คืองานที่ทะเยอทะยานที่สุดของเขา

และมันก็ลงหลุมจริงๆ




ที่มาของหนังเรื่องนี้ก็เริ่มจากความสัมพันธ์อันดีระหว่างเขากับ Bela Lugosi เจ้าของบทแดร็กคูล่าคนแรกในตำนานที่ตอนนั้นช่วงยุค 50
เขากลายเป็นดาราตกอับที่ไม่มีใครจ้าง ซ้ำยังติดยาจนร่างกายโทรมทรุดไม่เหลือเค้าเจ้าชายค้างคาวผีอีกต่างหาก จะมีก็แต่ Wood ที่คลั่งไคล้
ในตัว Lugosi ตั้งแต่เด็ก เลยอยากขอแรงมาร่วมงานกัน แต่ถ่ายทำหนังเรื่องที่ว่าไปแค่ไม่นาน Lugosi ก็เสียชีวิต Wood จึงจำต้องยุติ
การสร้างไปจัดงานศพให้ Lugosi ก่อนระยะหนึ่ง พอหายจากความเศร้า ไฟในตัวก็ลุกโชนขึ้นมาใหม่ ตามด้วยไอเดียสำหรับโปรเจคท์ใหม่
ผูกให้เข้ากับหนังตลาดพิมพ์นิยมในยุคนั้นนั่นคือ


แนวอวกาศ มนุษย์ต่างดาวบุกโลก เนื้อเรื่องก็ว่าด้วยพวกมนุษย์ต่างดาวต้องการจะยึดครองทำลายโลก
โดยใช้แผนยิงรังสีไปที่ต่อมพิทูอิตารี่ของศพ เพื่อปลุกชีพศพขึ้นมาเข่นฆ่ามนุษย์ให้หมดไปจากโลก!
(โอ้ ช่างคิดจริงๆ แต่ขอโทษ ทั้งเรื่องเห็นมีศพฟื้นขึ้นมาสามศพ ... พี่จะเอาสามศพยึดโลกทั้งใบ
ใช้สมองส่วนไหนคิดเหรอครับพี่...)




แต่ปัญหาแรกที่ Wood กับพวกต้องเจอคือไม่มีทุน เพราะงานชิ้นก่อนๆ ของ Wood ไม่ได้ทำเงินเลย โกยแต่คำด่า เลยไม่มีค่ายไหน
รับหน้าที่ออกทุนให้ จนเขาจำต้องไปขอร้องสมาคมโบสถ์แบ๊บทิสต์ (Baptist church) ให้มาลงทุน Wood ก็ทำการเอาใจสมาคม
โดยการพาเอาเหล่าสมาชิกในกองถ่ายมาเข้าร่วมพิธีประกาศตนเป็นแบ๊บทิสต์กันแทบทั้งกอง ทุนที่ว่าก็ราว 6,000 เหรียญได้

พอได้เงินมาเรียบร้อยก็เริ่มทำงานกันต่อ แต่ทุนมันจำกัดน่ะครับ ข้าวของในกองเลยต้องจำเขี่ยสุดๆ อย่างชุดตำรวจในเรื่องก็ต้องขอยืม
มาจากลูกชายหนึ่งในดารานำที่ทำงานเป็นตำรวจอยู่ที่ซาน เฟอนานโด้ พวกจานบินและข้าวของไฮเทคในเรื่องก็ใช้ของที่หาได้แถวนั้น
มาประกอบ เช่น ถาดพิซซ่ามาพ่นตะกั่ว หรือไม่ก็สร้างโครงขึ้นมาแล้วเอากระดาษหุ้ม ความพยายามสูงส่งจริงๆ




แต่ปัญหาสำคัญประการต่อมาคือ แล้วจะเอา Bela Lugosi ที่ตายไปแล้วมาถ่ายทำฉากที่เหลือได้อย่างไร?
ระหว่างที่ Wood กำลังมืดแปดด้าน ก็พอดีมีอยู่วันหนึ่ง Wood กับภรรยาไปทานอาหารกัน และภรรยาของ Wood
ก็แนะนำให้เขารู้จักกับ Tom Mason หมอฟันประจำตัวของเธอ ซึ่ง Wood ก็พินิจพิเคราะห์หน้าตาท่าทางของเขา
ก็ให้ละม้ายคล้ายกับ Lugosi ที่ล่วงลับเหลือเกิน....


การถ่ายทำที่ Wood วางแผนคือให้ Mason มาแสดงแทน Lugosi โดยใช้ผ้าคลุมมาปิดหน้าตลอด!




ระหว่างการถ่ายทำ ก็เจอแรงกดดันเยอะครับ บางทีพี่แกต้องเดินหนีออกไปนั่งทำใจ แต่สุดท้ายก็ฮึดเข้ามาลุยใหม่
ซ้ำยังโดนนายทุนสารพัดหน้า (เพราะแกไปขอให้นายทุนมาลงหลายเจ้า เจ้าละนิดละหน่อย) มาคอยบงการอีก
... ก็เหนื่อยพอเหงื่อเล็ด


แต่มีอยู่ครั้งหึ่งที่พวกผู้อำนวยการสร้างบงการแล้วได้ผลดี คือชื่อเรื่องที่แรกเริ่ม Wood ตั้งไว้ว่า Grave Robbers from Outer Space
แต่เนื่องจากคนออกทุนอย่างชาวโบสถ์แบ๊บทิสต์เขาเห็นว่าชื่อมันล่อแหลมเกินไป ฟังเผินๆ มันหมิ่นพระเจ้า เลยขอให้เปลี่ยนเป็น
Plan 9 from Outer Space ที่เผอิญในหนังมีการบอกพอดีว่านี่คือแผนที่ 9 ของพวกต่างดาวที่ใช้โจมตีโลก

(นั่งคิดในใจ ถ้าเอ็งวางแผนโจมตีโลกแล้วล้มเหลวมา 8 ครั้งติดๆ ก็ไปยึดดาวดวงอื่นได้แล้ว จะมาหน้าด้านหน้าแหกบนโลกอีกทำไม)


แล้วในที่สุดหนังเรื่องก็ปรากฏขึ้นบนโลกจนได้

............ คงไม่ต้องพล่ามอะไรมากครับ ได้รับคำชมแบบจมธรณีมาตราบจนทุกวันนี้

credit :: cammy@dek-d.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 มกราคม 2016, 15:34:59 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่