-->

ผู้เขียน หัวข้อ: ปริศนาฮิตเลอร์กับมรดกศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู  (อ่าน 1247 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18320
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

ปริศนาฮิตเลอร์กับมรดกศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู



เพิ่งจะนั่งดู กัปตัน อเมริกา จบไปเมื่อครู่ก็อดจะนึกไม่ได้ว่า นี่เป็นอีกครั้งแล้วที่อเมริกาสร้างหนังเกี่ยวกับตัวร้าย
ที่เป็น นาซี เยอรมัน และวนเวียนอยู่กับเรื่องการตามหาพลังศักดิ์สิทธิ์จากสิ่งเหนือธรรมชาติ ก่อนหน้านี้
เมื่อราว 20 ปีที่ผ่านมา ฮอลลีวู้ดได้ส่ง อินเดียน่า โจนส์ ให้รับหน้าที่ในการดับฝันเหล่านาซีและฮิตเลอร์
ในเรื่องการตามหาซูเปอร์พลังที่จะทำให้นาซีครองโลกมาแล้ว


คำถามสำหรับนักดูหนังย่อมมีอยู่แน่โดยเฉพาะเรื่องของฮิตเลอร์ และนาซีที่หมกมุ่นกับเรื่องการตามหา
พลังงานเหนือธรรมชาติในโลก สิ่งที่น่าสงสัยก็คือ มันเป็นเรื่องจริงหรือไม่

       


คำตอบก็คือ จริงครับ มีหลักฐานมากมายว่า “ไฮน์ริช ฮิมเลอร์” เจ้าพ่อหน่วย SS ที่เป็นหน่วยสืบราชการลับ
ของพวกนาซี ได้รับการมอบหมายจากท่านผู้นำของเขาให้ส่งคนตามหาที่มาแห่งพลังดังกล่าว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังอำนาจที่มาจากพระเยซูคริสต์ตามที่พระคัมภีร์ฉบับเก่าได้รจนาเอาไว้ ในต้นเรื่องของ
กัปตัน อเมริกา ที่ เรดสกัล เจ้าพ่อหน่วยไฮดร้าบุกไปนอร์เวยเพื่อตามหาหินศักดิ์สิทธิ์ในตำนานของแอสการ์ดนั้น
ในประวัติศาสตร์จริงก็มีครับ



เพราะ ฮิตเลอร์และฮิมเลอร์วางแคมเปญให้กับหนุ่มๆ และเด็กๆ ในเยอรมันเชื่อว่า พวกเขาคือชาวนอร์ดิก อารยัน
และสิ่งของที่เป็นของที่ควรสืบทอดในเผ่าของพวกเขาและถูกพวกคริสเตียนแย่งเอาไปซ่อนไว้ตามที่ต่างๆ
นั้นต้องถูกนำมาคืนในที่ๆ เหมาะสมในเยอรมัน การตามล่าผลงานทางประวัติศาสตร์ โบราณวัตถุและศิลปะ
ที่เป็นของพวกนอร์ดิก อาร์ยัน จึงเกิดขึ้นจริง วัตถุโบราณทางศาสนาโบราณเหล่านี้ถูกนำไปรวมไว้ที่เนิร์นแบร์ก
ในเยอรมันในเวลาต่อมา…จะมีหินศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องนี้แหล่ะครับที่ฮิตเลอร์ไม่ได้ไป และโดนเจ้า เรดสกัล แฮป
ไปสร้างกองทัพของตัวเอง

       
ตามประวัติศาสตร์นั้นมี 3 ภารกิจหลักที่ฮิมเลอร์ได้รับเกี่ยวกับตามหาสิ่งศักดิสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับพระเยซูก็คือ

หีบศักดิ์สิทธิที่จารึกบัญญัติ 10 ประการ (The Ark of Covenant)



“หอกลองกินุส” (Spear Of Destiny) ซึ่งเป็นหอกที่ทหารโรมันแทงพระองค์เชื่อเช็คว่าตายแล้วหรือยัง


“จอกศักดิ์สิทธิ์” หรือ Holy Grail จอกน้ำที่พระเยซูใช้ดื่มในอาหารมื้อสุดท้าย





       
ฮิตเลอร์นั้นมีความเชื่อในเรื่องของพลังเหนือธรรมชาติอยู่แล้ว เขาเชื่อว่าผู้ที่ได้ครอบครองพลังเหล่านั้น
จะเป็นคนที่ถูกมอบหมายให้บริหารโลกนี้แต่เพียงผู้เดียว ฮิตเลอร์เชื่อในเรื่องเผ่าพันธ์เขามองว่า เผ่าอารยัน
ที่มีผมสีทอง ตาสีฟ้า จะเป็นคนที่เข้ามาจัดการกับโลกนี้ให้ไปในเส้นทางที่ถูกต้อง ฮิตเลอร์และฮิมเลอร์
ได้เสนอทฤษฏีที่ว่า ชาวเยอรมันนั้นมีต้นกำเหนิดมาจากชาวแอตแลนติส ที่เอาตัวรอดมาจากยุคน้ำแข็งได้สำเร็จ
จนมาสร้างความเกรียงไกรได้ในปัจจุบัน


เพราะฉะนั้นชาวอารยันจึงมีความสำคัญต่อโลกในทุกๆทาง ทั้งการวิทยาศาสตร์ ศาสนา การเอาตัวรอด
และการสงคราม นั่นนำมาสู่ความเชื่อและการกระทำที่ต้องคัดกรองมนุษย์ให้เหลือแต่อารยันแท้ๆ เท่านั้นที่สำคัญ
ส่วนยิว หรือเผ่าอื่นๆต้องตายหรือถูกกำจัดไป


       
แต่กระนั้นข้อมูลอะไรก็ไม่แน่ใจเหมือนกันที่ทำให้ฮิตเลอร์เชื่อว่า จาคอปส์ สาวกของพระคริสต์นั้นเป็นชาวอารยัน
และความเชื่อนั้นก็วิ่งมาสู่เรื่องที่ว่าพระเยซูก็เป็นชาวอารยันเช่นเดียวกัน ทั้งๆ ที่พระองค์น่าจะเป็นชาวยิวมากกว่า
ฮิตเลอร์นั้นอ่านพระคัมภีร์ฉบับเก่าแบบละเอียด แถมยังศึกษาเรื่องราวปรัมปราของอัศวินโต๊ะกลมและกษัตริย์อาเธอร์เสียด้วย
อาเธอร์นั้นทำหน้าที่พิทักษ์จอกศักดิ์สิทธิ์และเผ่าอารยัน ฮิตเลอร์นั้นอุปมาอุปมัยตัวเองว่าเป็นอาเธอร์กลับมาเกิดใหม่
รอบๆ ตัวเขานั้นมีแต่พวกอารยันที่ควรจะเป็นผู้ที่สืบทอดมรดกศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู แถมยังตีความใหม่และเชื่อว่า
สิ่งที่เป็นมรดกศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นแหล่งพลังงานที่ยิ่งใหญ่และมีอาณุภาพไพศาลจนสามารถทำลายกองทัพ
ของฝ่ายตรงข้ามได้เลย

       
เขาตีความง่ายๆ กรณีของหีบศักดิ์สิทธิ์ว่า ถ้าได้ครอบครองมันและนำมันมาวางในแนวหน้าแล้วเปิดหีบออก
มันก็จะส่งพลังออกไปทำลายกองทัพฝ่ายตรงข้าม ขณะที่กรณีของจอกศักดิ์สิทธิ์นั้น ฮิตเลอร์ก็เชื่อว่าถ้าได้มาแล้ว
ใช้ใส่น้ำดื่มมันจะทำให้เขากลายเป็นอมตะและไม่มีวันตาย มันจะทำให้ทหารนาซีเป็นกองทัพอมตะขึ้นมา


       
ในสามสิ่งนี้ 2 เรื่องราวถูกฮอลลีวู้ดนำมาสร้างใน Raider Of The Lost Ark หรือ อินเดียน่า โจนส์ ภาค 1 ในปี 1981
และ The Last Crusade หรืออินเดียน่า โจนส์ ภาค 3 โดยที่นาซีไม่ประสบความสำเร็จในการครอบครอง
แต่ประสบความสำเร็จในการค้นหา ซึ่งในภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องนั้น บอกเราว่า คนที่ไม่เหมาะแก่การครอบครองนั้น
ส่วนใหญ่จะเป็นคนชั่วและโหดร้าย ซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นจะไม่ยอมเป็นเครื่องมือของพวกมันอย่างแน่นอน

       



เพราะฉะนั้นเมื่อทหารนาซีทำพิธีเปิดหีบแห่งพันธะสัญญา อาณุภาพในหีบก็พวยพุ่งออกมาเผาคนที่บังอาจ
มองมันอย่างน่าสยดสยอง เช่นเดียวกับการนำเอาจอกศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากวิหารของนักรบเพื่อพระเจ้า
ในภาค 3 ผลก็คือ ความศักดิ์สิทธิ์ไม่คงอยู่ วิหารก็ถล่มลงมาทัพพวกนาซีตายไปอีก
     
แต่ความเป็นจริงนั้นไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์อย่างเป็นทางการถึงการค้นพบเรื่องที่ว่า ในหนังสือเล่มที่ว่า
ด้วยการตามหาจอกศักดิ์สิทธิที่น่าสนใจเล่มหนึ่งชื่อ The Desecrated Abbey ที่ตีพิมพ์ไปเมื่อปี 2007 นั้น
บอกว่า ไฮนริค ฮิมเลอร์ ส่งทหารนาซีเข้ามาที่สเปนที่วิหารมอนเซรัท (Monserrat Abbey)ใกล้ๆบาร์เซโลน่า
ในปี 1940 โดยเบาะแสที่สำคัญที่ฮิมเลอร์เชื่อมาจากโอเปร่าเรื่อง พาร์ซิฟาล (Parsifal) ที่ “ริชาร์ด วากเนอร์”
เขียนไว้เมื่ออดีต แต่ฮิมเลอร์คว้าน้ำเหลวเพราะในโบสถ์นั้นไม่มีใครรู้จักหรือรู้ว่ามีจอกศักดิ์สิทธิจริง
เขาออกมาจากสเปนด้วยมือเปล่า และเกิดทฤษฏีใหม่ว่ามันน่าจะอยู่ใน Montségur ประเทศฝรั่งเศสแทน

       
เรื่องนี้น่าจะทำให้เกิดแรงบันดาลในในการสร้างนวนิยายชื่อดังของโลกต่อเนื่องกันอีกออย่าง รหัสลับดาวินชี่
ที่ก็ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ แต่ปรากฏว่ากลายเป็นเรื่องโอละพ่อเมื่อ เกรล นั้นดันเป็นคนและหมายถึงสายเลือด
ที่แท้จริงของพระเยซูแทนซึ่งเป็นสาวชาวฝรั่งเศส

     
แต่ฮิมเลอร์ก็ไม่ยอมแพ้ เขาส่ง ออตโต้ ราห์น นักประวัติศาสตร์ชาวเยอรมันซึ่งศึกษาเรื่องราวของ จอกศักดิ์สิทธิ์
เดินทางไปตามหาทั่วยุโรปเลยไปยังตะวันออกกลางและแอฟริกาถึงเอธิโอเปียโน่น และใช้เวลานานหน่อยในอิหร่าน
รวมถึงปราสาทคาธาร์ในพีเรนีสจนกระทั่งสงครามโลกจบลง ออตโต้ ราห์นก็ยังหาไม่เจอ
       
แต่ข้อถกเถียงในเรื่องนี้ก็ยังมีนะครับว่า แท้ที่จริงแล้วมรดกศักดิ์สิทธิ์ที่ฮิตเลอร์ตามหานั้น อาจจะไม่ได้มีประโยชน์อะไร
ต่อการสงครามของนาซีเลย เพราะว่า หนึ่งในของศักดิ์สิทธิ์ที่ฮิตเลอร์ต้องการนั้น เขาได้ครอบครองจริงๆ
นั่นคือ หอกลองกินุส ที่ได้ดื่มเลือดของพระเยซูขณะที่ถูกตรึงกางเขน
       


ตำนานของหอกลองกินุสในเรื่องของพลังที่ทำให้ชนะศึกนั้นเริ่มจากพระเจ้าคอนสแตนติโปเปิลที่สามามารถ
วารากฐานให้คริสตร์ศาสนากลายเป็นศาสนาประจำชาติโรมันในปี คศ 312 พระองค์กล่าวว่าด้วยอานุภาพแห่งหอก
จึงทำเป็นผลสำเร็จ ชื่อของหอกมาดังอีกครั้งกับพระเจ้าชาร์ลผู้ก่อตั้งอาณาจักรโรมัน ศักดิ์สิทธิ์ (Holy Roman Empire)
ในแถบเยอรมันและฝรั่งเศสในปี คศ 800 ท่านได้ชื่อว่าไร้พ่ายและคงกระพัน จนกระทั่งทำหอกหล่นระหว่างการศึก
ก็เลยโดนเชือด ความศักดิ์สิทธิ์ของหอกยิ่งเป็นตำนานทีเลื่องลือ

     
ในเวลาต่อมามีความพยายามจะเพิ่มพลังหอกโดยการหาตะปูศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ตรึงพระเยซูมาเชื่อมกับหอก แต่ไปๆ มาๆ
การเชื่อมหรือการฝังตะปูนั้นอาจจะพลาดหอกก็เลยหักกลาง พระเจ้าเฮนรี่ที 3 ที่สืบเชื้อสายมาก็เลยเอาเงินและทอง
มาหุ้มไว้ในปีคศ 1046 ก็ไม่รู้ว่าความศักดิ์สิทธิ์จะหายไปหรือเปล่า



400 ปีถัดมาหอกที่อยู่ในความครอบครองของผู้สืบเชื้อสายพระเจ้าชาร์ลก็ขายมันให้แก่เมืองเนิร์นแบร์กเพื่อเก็บไว้
ในพิพิธภัณฑ์ ในปี คศ 1796 นโปเลียน โบนาปาร์ด ที่คิดจะครองยุโรปก็นำกองทัพบุกเนิร์กแบร์กเพื่อยึดครองหอกเล่มนี้
แต่ชาวเนิร์นแบร์กรู้ทันจึงเอามันไปซ่อนและส่งต่อไปยังเวียนนามหาอำนาจอีกแห่งหนึ่ง หลังจากฮิตเลอร์ครองอำนาจ
และยึดออสเตรียได้ในปี คศ 1938 ฮิตเลอร์ก็ควงฮิมเลอร์ไปเวียนนาเพื่อนำหอกกลับมา และหาทางดูดพลังจากมัน
ฮิตเลอร์นั้นถึงขนาดนำมันนอนหนุนด้วยเพื่อหวังว่าหอกจะส่งพลังมาให้แก่เขาและอาณาจักรไรช์ที่ 3
       
หลังครอบครองหอกได้ 7 ปี เยอรมันก็พ่ายแพ้สงคราม ฮิตเลอร์ ฆ่าตัวตายพร้อม อีวา บราวน์ หอกโดนยึด
โดยกองทัพที่ 7 ของสหรัฐและในเวลาต่อมามันก็ถูกส่งคืนกลับไปยังเวียนนา…สิ่งนี้เป็นข้อที่ฝั่งหนึ่งโต้แย้งว่า
จริงๆ มันอาจจะไม่มีพลังอะไรเลยในเรื่องราวของมรดกศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู


cradit :: manager.co.th
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 กรกฎาคม 2012, 17:17:59 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

nuttikon

  • V.I.P.
  • อาชาคะนองศึก
  • *
  • กระทู้: 1199
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: ปริศนาฮิตเลอร์กับมรดกศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2012, 22:51:24 »

 fhgj หน้าเหมือนใครน้อ

poojung3

  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 288
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: ปริศนาฮิตเลอร์กับมรดกศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2012, 04:47:38 »

เฉพาะเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ สามารถนำมาผูกกับหนังได้ตั้งหลายเรื่อง  wq

nat2029

  • คณะสำรวจ
  • *
  • กระทู้: 642
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: ปริศนาฮิตเลอร์กับมรดกศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2012, 10:05:26 »

เอามาสร้างเป็นหนังหลายเรื่องละ

lovely_pimnara

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 184
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: ปริศนาฮิตเลอร์กับมรดกศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2012, 01:00:22 »

ขอบคุณมากครับ  สาระอีกแล้ว ชอบ ๆ  อ่านเพลินดีครับ  hgjhg

gundam1974

  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 268
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: ปริศนาฮิตเลอร์กับมรดกศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2012, 08:42:08 »

สาระยังคงยอดเยี่ยมเช่นเดิม

dugdig777

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 118
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: ปริศนาฮิตเลอร์กับมรดกศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2012, 22:17:40 »

ได้สาระและความรู้
...เก็บผักลวดหักหลัว ตกขัวลวดอาบน้ำ...

luciana

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 70
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: ปริศนาฮิตเลอร์กับมรดกศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2012, 14:38:57 »

ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ lowwww lowwww