5 เมืองที่ประหลาดที่สุดในโลก!cr.พี่ดังกิ้น@dek-d
1. เมือง “Neft Dasları” เมืองบนแท่งขุดเจาะน้ำมันถึงตอนนี้จะไม่มีใครอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้แล้ว แต่เมื่อ 50-60 ปีก่อน สถานที่แห่งนี้เคยเป็นแหล่งขุดเจาะน้ำมัน
ที่ยิ่งใหญ่และสำคัญของสหภาพโซเวียต มีคนงานอาศัยอยู่ถึง 5,000 คนเลยทีเดียว เมือง Neft Daslari หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Oil Rocks ตั้งอยู่กลางทะเลแคสเปียน ห่างจากเมืองหลวง
ของประเทศอาเซอร์ไบจานถึง 1,000 กิโลเมตร ภายในเมืองเชื่อมต่อด้วยสะพานและถนนยาวถึง 300 กิโลเมตร
เดิมทีที่แห่งนี้สร้างขึ้นสำหรับทำการขุดเจาะน้ำมันปิโตรเลียม แต่ว่าการทำงานต้องใช้เวลานานจึงต้องสร้างบ้าน
เพื่อให้คนงานได้อยู่ และสุดท้ายก็ขยายเป็นชุมชนกลางทะเล ที่มีทั้งสวนสาธารณะ ต้นไม้และดินที่มาจากแผ่นดินใหญ่
ทำให้คนบนเมืองลอยน้ำแห่งนี้สามารถเพาะปลูกผักและผลไม้ได้ มีสนามฟุตบอล โรงหนังที่สามารถจุคนได้ 300 คน
และห้องสมุด
แต่หลังจากที่สหภาพโซเวียตได้ค้นพบแหล่งขุดเจาะน้ำมันปิโตรเลี่ยมแห่งใหม่ เมืองกลางทะเลแห่งนี้ก็ได้ถูกทิ้งร้าง
และปล่อยให้ผุพังไปตามกาลเวลา ใครที่อยากจะไปเยี่ยมเมืองแห่งนี้ ต้องเสียใจด้วยเพราะว่ารัฐบาลของประเทศ
อาเซอร์ไบจาน ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวนั่นเอง2. “La Rinconada” เมืองที่อยู่สูงที่สุดในโลกLa Rinconada เป็นเมืองแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอนดีส ประเทศเปรู เรียกว่าเป็นเมืองที่สูงที่สุดในโลก
นอกจากนี้แล้วยังเป็นเมืองที่ทุรกันดารมากๆ ด้วยค่ะ เพราะว่าเมืองแห่งนี้ไม่มีระบบประปาและการกำจัด
สิ่งปฏิกูลของเสีย ถึงแม้ว่าการอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้จะเต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่ก็มีคนอยู่อาศัยถึง 50,000 คนเลยทีเดียว
ผู้คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ส่วนมากจะทำงานเหมือง เพราะที่แห่งนี้อยู่ใกล้เหมืองทองคำนั่นเอง ไม่ว่า
จะผู้ชายหรือผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ส่วนใหญ่ก็ยึดอาชีพทำเหมืองแร่ทองคำ พวกเขาทำงานด้วย
ความหวังที่ว่าพวกเขาจะกลายเป็นเศรษฐีหรือร่ำรวยขึ้นมาในสักวันหนึ่ง
เรื่องที่น่าสนใจของหมู่บ้านแห่งนี้ก็คือ เด็กๆ ที่อาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้จะไม่ได้ไปโรงเรียน ไม่ได้เรียนหนังสือ
แต่จะไปช่วยเหลืองานของคุณพ่อคุณแม่และพวกผู้ใหญ่แทน และเมืองแห่งนี้ก็ไม่มีกฎหมาย และไม่ปฏิบัติ
ตามกฎหมายบ้านเมืองของประเทศเปรูด้วย
3. “Candido Godoi” เมืองในประเทศบราซิลที่มีอัตราการเกิดของฝาแฝดสูงที่สุดในโลกเรียกว่าเป็นเมืองแห่งฝาแฝดเลยก็ยังได้ค่ะ เพราะว่าที่เมือง Candido Godoi เมืองเล็กๆ ทางตอนใต้ของประเทศบราซิล
คนที่อาศัยอยู่ที่เมืองแห่งนี้มีอัตราการให้กำเนิดฝาแฝดสูงมากถึง 10% เลยทีเดียว เทียบกับคนปกติแล้วเปอร์เซ็นต์
การเกิดลูกฝาแฝดของคนทั่วไปมีเพียง 1% เท่านั้น ถือว่าเป็นเรื่องแปลกมากๆ ทำให้มีการคาดเดาไปถึงสาเหตุของเรื่องราวเหล่านี้ด้วยว่าอาจจะเป็นเป็นฝีมือของ หมอ Josef Mengele หมอทหารนาซี
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เคยย้ายมาอาศัยอยู่ที่เมืองแห่งนี้และเขาก็เป็นคนที่คลั่งไคล้การทดลองมนุษย์และทดลอง
สร้างฝาแฝดด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม ได้มีนักวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่งตัดสินใจทำการทดลองเกี่ยวกับทฤษฎีและค้นหาความจริงของเรื่องนี้
ด้วยการไปสุ่มเอา DNA ของผู้หญิงในหมู่บ้านมาทำการตรวจสอบก็ค้นพบว่ามันเป็นเรื่องของยีนและพันธุกรรมนั่นเอง
ที่เป็นปัจจัยทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยฝาแฝด
4. “Miracle Village” หมู่บ้านผู้อาศัยเป็นคนที่เคยก่ออาชญากรรมทางเพศในรัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งเป็นที่สำหรับรองรับนักโทษ ที่ก่อคดีอาชญากรรมทางเพศ คดีต่างๆ
เช่น การล่วงละเมิดทางเพศ หรือแค่พยายามมีอะไรกับแฟนโดยที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะก็โดนจับได้เหมือนกัน หมู่บ้านแห่งนี้ก่อตั้งโดย “Richard Witherow” เขาอยากให้โอกาสกับคนที่เพิ่งพ้นโทษในคดีอาชญากรรมทางเพศ
Richard Witherow ได้ตั้งชื่อหมู่บ้านแห่งนี้ว่า “Miracle Village” ถึงแม้ว่าจะเป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยอาชญากร
แต่พวกเขาก็ไม่รับบุคคลที่มีประวัติว่าเคยเสพยา คนที่ใช้ความรุนแรง หรือคนมีปัญหาทางจิต ที่ชอบทำร้ายเด็ก
เข้ามาให้คนในหมู่บ้านรู้สึกมีภัย
หมู่บ้านแห่งนี้มีกฎเป็นของตัวเองและเข้มงวดกว่าที่อื่นๆ แหละมีกำหนดเวลาเคอร์ฟิวตอน 1 ทุ่ม ผู้อยู่อาศัยจะต้องสวมสร้อย
ข้อเท้าที่มี GPS เอาไว้ตลอดเวลา พวกเขาจะถูกตัดขาดจากครอบครัว อินเตอร์เน็ต และโทรศัพท์ เมื่อมีเวลาว่างพวกเขา
ก็จะทำงาน เข้าโบสถ์ อ่านไบเบิ้ล และเข้าคอร์สบำบัดจิตใจด้วย เรียกได้ว่าสมชื่อ “Miracle Village” จริงๆ เพราะว่าเป็นหมู่บ้านที่มอบโอกาสและชีวิตใหม่ให้กับคนที่หลงทางทำผิด 5. “Coober Pedy” เมืองใต้ดินในประเทศออสเตรเลีย ที่มีคนอาศัยอยู่เยอะที่สุดในโลกนอกจาก Coober Pedy จะเป็นเมืองใต้ดินที่มีผู้คนอาศัยอยู่มากถึง 3,500 คนแล้วที่แห่งนี้ยังพบแร่โอปอล
เป็นจำนวนมากอีกด้วย เรียกว่าเป็นเหมืองโอปอลที่สำคัญของโลกเลย เมือง Coober Pedy เป็นเมืองเล็กๆ ในตอนแรกที่แห่งนี้เป็นเพียงแค่เหมืองขุดแร่โอปอล ต่อมาก็กลายมาเป็นที่อยู่อาศัย
ของคนงานเหมือง สาเหตุที่ผู้คนในเมืองนี้เลือกที่จะมาอาศัยกันอยู่ใต้พื้นดิน นั่นเป็นเพราะบริเวณพื้นดินด้านบนมีอากาศ
ที่ร้อนเอามากๆ นั่นเอง พวกเขาจึงตัดสินใจสร้างบ้านใต้ดิน ที่มีชื่อเรียกว่า “Dugouts” เพื่อให้พวกเขาได้อยู่อาศัย
ในสถานที่ที่มีอากาศเย็นสบายและเงียบสงบ
นอกจากบ้านเรือนที่อยู่อาศัยแล้ว พวกเขายังมีการขุดขยายโพรงใต้ดินให้กว้างขึ้นเรื่อยๆ และสร้างสถาปัตยกรรมใต้ดินต่างๆ
ทั้งโบสถ์ พิพิธภัณฑ์ โรงแรม และมีร้านขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย เพราะที่แห่งนี้นอกจากจะเป็นเหมืองแร่แล้ว
ยังมีความแปลก และความสวยงามดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมอีกด้วย
ที่มา
www.toptenz.netwww.odditycentral.comnews.nationalgeographic.com
time.com
www.bbc.comwww.smithsonianmag.comen.wikipedia.org