.....เริ่มเรื่องเลย.....
เมื่อวันเสาร์ที่ 23 มกราคม น้องเราได้โพสต์ขายมือถือ ในเว็บบอร์ดสาธารณะ ในราคา 7,500 บาท (น้องเราชอบซื้อแล้วก็ขายของในเว็บไซต์ค่ะ)
ผ่านไป 1 วัน ช่วงเย็นของวันที่ 24 มกราคม มีโทรศัพท์ ของนาย เอ๊ก (มิจฉาชีพ) ติดต่อเข้ามาเพื่อขอดูของและซื้อขาย ซึ่งน้องของเราก็ได้นัดหมาย
สถานที่เป็นที่เรียบร้อย
ประมาณช่วงค่ำของวันเดียวกัน (วันที่ 24 มกราคม) นายเอ๊ก (มิจฉาชีพ) โทรเข้ามาเพื่อขอเลขที่บัญชีของน้องเรา โดยอ้างว่าจะโอนเงินไปให้ก่อน
เพราะกลัวว่าน้องเราจะนำมือถือไปขายคนอื่น
ซึ่งน้องเราเองก็ไม่ได้เอะใจ (น้องเรากำลังรวมเงินเพื่อซื้อมือถือใหม่) จึงได้ให้เลขที่บัญชีกับ นายเอ๊ก ไป
จากนั้น ประมาณ ตี 1 ของวันเดียวกัน นายเอ๊ก ได้ติดต่อให้น้องเราไปเช็คยอดเงินในบัญชี เพราะ นายเอ๊ก อ้างว่าได้ทำการโอนมาแล้ว พร้อมทั้งย้ำว่า
ถ้าเช็คว่าเงินเข้าบัญชีแล้ว ให้โทรกลับไปบอก นายเอ๊ก ด้วย จากที่น้องเราไปดูยอดเงิน ก็มียอดเงินโอนเข้ามาให้เป็นจำนวน 6,900 บาท ซึ่งน้องเรา
ได้ตกลงขายมือถือที่ราคา 7,200 บาท เงินที่ขาดอีก 300 บาท นายเอ๊ก บอกจะนำมาให้ด้วยตนเองในวันรับของ
วันที่ 25 มกราคม น้องเรา ได้เดินทางไปพบ นายเอ๊ก ที่สถานที่นัดหมาย โดยไม่มีความผิดปกติใด ๆ เมื่อขายมือถือไปแล้ว น้องเราก็เดินทางกลับมาที่พัก
และกดเงินจำนวน 6,900 บาท ออกมาเพื่อนำไปซื้อมือถือ ในเย็นวันเดียวกัน
วันที่ 26 มกราคม ช่วงเวลา 18.00 น. น้องเราได้รับโทรศัพท์จากพ่อและแม่ บอกว่ามีคนโทรเข้ามาที่บ้าน ชื่อ "โอม" แล้วบอกว่า น้องเราไปหลอกขาย
เครื่องเล่น Play Station 3 โดยให้ โอม ทำการโอนเงินมาให้ในคืนวันที่ 24 มกราคม เป็นจำนวนเงิน 6,900 บาท ซึ่งตอนนี้ โอม กำลังเตรียมหลักฐานทั้งหมด
(สลิปการโอนเงิน พร้อมข้อความตกลงซื้อขายในกระทู้) ไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดี
วันที่ 26 มกราคม ช่วงเวลา 20.00 น. น้องเราได้รับการติดต่อจาก โอม เพื่อทวงถามถึงเครื่องเล่น Play Station 3 แต่จากที่ได้พูดคุยกัน จึงทำให้ โอม ทราบว่า
น้องเราไม่ได้เกี่ยวข้อกับการซื้อขาย Play Station 3 แต่อย่างใด (แต่เค้าเอาชื่อนามสกุล เลขที่บัญชีน้องเราไปแจ้งความเรียบร้อยแล้ว) ความจริงเริ่มปรากฎ
คือ โอม โดนหลอกขาย Play Station 3 ในราคา 6,900 บาท ....น้องเรา โดนหลอกซื้อมือถือ โดยใช้เงินของ โอม ที่โอนเข้าบัญชี ... ซับซ้อนได้อีก
และในวันนี้ น้องเรา กำลังรวบรวมหลักฐาน เพื่อนำไปแจ้งความในพื้นที่เกิดเหตุ (สถานที่นัดรับมือถือ) เพื่อนำใบแจ้งความไปขอดูกล้องวงจรปิด (ดีนะที่น้องนัดรับของในร้าน KFC)
ซึ่งน้องเรา อาจจะต้องเสียมือถือไป เพราะต้องคืนเงินจำนวน 6,900 บาท ที่ โอม ทำการโอนมาคืนให้กับ โอม
....จากเรื่องราวที่เล่ามา....
จะบอกว่า เดี๋ยวนี้มิจฉาชีพ มีเยอะมาก โดยหลายคนที่อ่าน อาจจะบอกว่า "นี่ไง ที่เคยอ่าน , นี่ไง ที่เคยเจอในทีวี" แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้น น้องเราไม่ได้รู้เห็นด้วยเลย
แต่กลายเป็นแพะ เพราะว่า โอม ไม่ได้ตรวจเช็คข้อมูลของ นายเอ๊ก ให้ละเอียด รีบโอนเงินเข้าบัญชี ไม่ได้สังเกตุเลยว่า ชื่อบัญชี เป็นผู้หญิง แต่คนตกลงซื้อขายเป็นผู้ชาย
ที่มากไปกว่านี้ ชาวบอร์ด ที่น้องเราไปโพสต์ขายมือถือ ได้ช่วยกัน ขุดคุ้ยหาข้อมูล ทั้งเบอร์โทรบ้านน้องเรา ชื่อพ่อ ชื่อแม่ คนที่นามสกุลเดียวกับน้องเรา เบอร์โทรศัพท์ญาติ ๆ
มาโพสต์ประจานกันในกระทู้ โดยที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมา (คืนวันที่ 26 มกราคม) ทางบ้านได้รับความเดือดร้อน และพ่อแม่ ก็ตกใจและเป็นห่วงว่าน้องเรา
จะถูกดำเนินคดี หรือ โอม จะถอนแจ้งความให้
ก็อยากจะเตือนทุกคน บางครั้งแค่เราให้หมายเลขบัญชีไป หรือเราโอนเงินให้ไป คนที่เอาเลขที่บัญชีเราไป เค้าจะเอาไปทำอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งมันไม่ได้เสียแค่เงินไม่กี่พันบาท
แต่มันจะเสียชื่อเสียง ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน ตามมาอีกมากมายเลย ตอนนี้ก็รอให้น้องไปสถานีตำรวจ ถ้าได้ภาพจากกล้องวงจรปิดมา จะนำมาให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ในนี้ได้ระวังไว้
เคยโพสท์ไปทีนึงแระ แต่ไม่รู้ว่าเทคนิคมันจะล้ำลึกได้ขนาดนี้
เครดิตเอามาจาก...PANTIP.COM