dfbgdfsh
บทความ แปลก ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเคยเจอ ผี แต่แปลกตรงที่ทั้งบุรุษพยาบาลและนางพยาบาลที่อยู่ในเหตุการณ์กลับไม่มีใครเห็น ผี เลย
"คำเปิง" เป็นสาวไทยใหญ่อายุ 18 ตัวเตี้ยๆ กลมๆ เหมือนโดเรมอน ช่างพูดช่างคุย ทำงานบ้านได้ดีน่าพอใจ เธอมาเป็นสาวใช้บ้านดิฉันได้ 2 ปีกว่าแล้วค่ะ มีบัตรแรงงานต่างด้าวเรียบร้อย...
เมื่อคืนนี้เธอเล่าเรื่องสยองขวัญให้ดิฉันฟัง!
4 ทุ่มกว่าแล้ว ลูกๆ และสามีดิฉันกินมื้อค่ำอิ่มหมีพีมัน คำเปิงช่วยเก็บโต๊ะ ล้างถ้วยล้างจาน ลมหนาวกลิ่นหอมสดชื่นโชยเข้ามาทางหน้าต่าง ดิฉันเลยออกไปนั่งเล่นที่โต๊ะหินริมสนาม นั่งดูท้องฟ้าที่มีดาวเกลื่อนกลาด นี่เป็นคืนที่ฟ้าใสต่างจากคืนอื่นๆ ที่มีเมฆฝนและหมอก...ปลายฝนต้นหนาวก็แบบนี้ล่ะค่ะ ต้องระวังสุขภาพกันหน่อยนะคะ
ลูกๆ ทำการบ้าน ส่วนสามีก็หอบเอางานมาทำ ดิฉันเลยนั่งชมดาวตามลำพัง...แต่เพียงพักเดียว คำเปิงก็ถือขดยากันยุงเข้ามาหา เธอเห็นดิฉันอยู่มืดๆ ก็เลยกลัวว่ายุงจะมารุมกัด...ดูซิคะ! รู้จักเป็นห่วง มีน้ำใจดีซะด้วย
ดิฉันเรียกให้นั่งด้วยกันถ้ายังไม่ง่วง คำเปิงก็ดีใจรีบรับปากทันทีเพราะเธอชอบคุยนี่คะ...และเรื่องที่มักจะคุยให้ดิฉันฟังเสมอๆ ก็คือเรื่องที่บ้านเดิมของเธอ ซึ่งอยู่เลยแม่สอดขึ้นไปไม่ไกลนัก
คำเปิงเล่าถึงลูกเห็บที่ตกลงมาเป็นเม็ดกลมๆ สีขาว พราวไปทั้งหมู่บ้าน...เธอบรรยายความเหน็บหนาวและการก่อไฟที่อบอุ่น คนในครอบครัวจะนั่งรอบกองไฟ เด็กๆ เอาขนมมาปิ้งกินเล่นและฟังผู้ใหญ่เล่าเรื่องเก่าๆ
ใต้ฟ้ากรุงเทพฯ คืนนี้ เธอคุยกับดิฉันเสียงเจื้อยแจ้ว ในที่สุดก็วกมาลงที่เรื่องผีๆ สางๆ จนได้!
คำเปิงไม่ใช่เด็กกลัวผี เหตุผลก็คือเธอไม่แน่ใจว่าโลกนี้มีผีจริงหรือเปล่า? แต่กระนั้นก็เคยมีเหตุการณ์อย่างหนึ่งที่ทำให้เธอหวั่นไหว...
เธอเล่าว่า ตอนนั้นเพิ่งอายุ 14 ปี ยายของเธอไม่สบายต้องเข้าไปนอนในโรงพยาบาลที่อยู่ในเมือง คำเปิงกำลังปิดเทอมพอดี เธอรู้สึกสนุกที่ได้ไปอยู่เฝ้ายายที่โรงพยาบาลนั้น...เวลายายนอนหลับก็มักออกมาเดินเล่นแก้เหงาไปตามเรื่อง บางทีก็ขึ้นลิฟต์ลงลิฟต์เล่น แม่ให้เงินติดกระเป๋าไว้ซื้อขนมกิน คำเปิงมักจะหาเรื่องลงไปซื้อขนมนมเนยอยู่บ่อยๆ
บ่ายวันหนึ่ง เธอออกมากดลิฟต์เล่น วันนั้นผู้คนไม่รู้ไปไหนหมด ไม่ค่อยมีคนมาเยี่ยมไข้เลย...คำเปิงกดมาลงที่ชั้น 3 ซึ่งเธอไม่เคยมาเดินชั้นนี้ ที่ชั้น 3 คนเงียบกว่าชั้นอื่นๆ คำเปิงพบตัวเองยืนอย่างเดียวดายอยู่ที่ช่องทางเดินอันยืดยาวและเวิ้งว้าง สองข้างทางเป็นห้องอะไรก็ไม่รู้ ปิดเงียบเชียว...ได้กลิ่นอับๆ ของเลือดและยาต่างๆ น่าขนหัวลุก
คำเปิงละล้าละลังอยู่แถวหน้าลิฟต์ มันเงียบจนน่าวังเวงใจสิ้นดี... ทันใดนั้นเอง เธอได้ยินเสียงล้อฝืดๆ ของรถเข็นดังเอี๊ยดอ๊าดมาแต่ไกล พอหันไปดูก็พบบุรุษพยาบาลชุดขาวคนหนึ่งกำลังเข็นเตียงคนไข้ใกล้เข้ามา มีนางพยาบาลคนหนึ่งเดินข้างๆ พอเตียงนั้นมาใกล้ๆ เธอก็เห็นร่างที่นอนนิ่งไม่ไหวติงมีผ้าขาวคลุมมิดชิดตลอดตัว
เด็กหญิงตื่นเต้นขึ้นมาวูบหนึ่ง...ศพ! เธอคิด และชะเง้อมองอย่างอยากรู้อยากเห็น เกิดมายังไม่เคยเห็นคนตายใกล้ๆ แบบนี้เลยนี่นา!
บุรุษพยาบาลกดเรียกลิฟต์...เธอเล่าว่าลิฟต์ที่นี่เป็นแบบเก่าที่มีช่องหน้าต่างกระจกสามารถมองเห็นภายในได้ชัดเจน นั่นไง! ลิฟต์เลื่อนขึ้นมาจอดแล้วประตูลิฟต์ก็เปิด บุรุษพยาบาลเข็นเตียงมรณะเข้าไป มีนางพยาบาลยืนเคียงข้าง ประตูลิฟต์ปิด คำเปิงมองเห็นว่าในแสงนีออนขาวจ้านั้น บุรุษพยาบาลและนางพยาบาลยืนตรงนิ่ง ลิฟต์กำลังเลื่อนขึ้น...
ฉับพลัน ร่างศพบนเตียงก็ลุกขึ้นนั่งปิ๊ง! ผ้าขาวเลื่อนหลุดออกจากหน้า เผยให้เห็นว่าเป็นหญิงสาว หน้าซีดเผือด หลับตาสนิท จมูกมีสำลีอุด ปากดำปี๋ ผมยาวเหยียดตรง
ที่น่าประหลาดที่สุดคือ ทั้งบุรุษพยาบาลและนางพยาบาลที่ยืนขนาบข้างนั้นไม่ขยับ หรือมีท่าทีรู้ว่าศพนั้นลุกขึ้นมานั่งเลย ทั้งคู่ยังมีสีหน้าเรียบเฉย มองตรงราวกับหุ่นยนต์!
คำเปิงเห็นแค่นั้นลิฟต์ก็เลื่อนขึ้น เธอมองตามลิฟต์อย่างงุนงง...
เด็กหญิงเล่าเรื่องนี้ให้แม่ฟัง แม่ก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้หรอก เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ยังไงกัน? จากนั้นเธอก็เล่าให้คนอื่นฟังอีก ทุกคนพูดอย่างเดียวกับแม่เปี๊ยบเลย จนในที่สุดคำเปิงเริ่มไม่แน่ใจว่าตัวเองเห็นอะไรแน่?
"แต่หนูเห็นอย่างนั้นจริงๆ นะคะ" เธอยืนยัน
ฟังแล้วขนลุกเลยนะเนี่ย...อากาศก็เย็นๆ พิกล ดิฉันเลยบอกเธอว่าจะไปนอนแล้วล่ะ ดึกมากเลย คำเปิงดับยากันยุงแล้วเดินเป็นเพื่อนดิฉันเข้าบ้านก่อนจะแยกตัวไปที่ห้องนอน
ดิฉันชะโงกเข้าไปดูสามีที่ห้องทำงาน... ถ้าเขายังไม่นอน ดิฉันก็จะนั่งดูทีวีก่อน...ดึกดื่นแค่ไหนก็จะรอ เพราะไม่กล้านอนคนเดียว...ดิฉันเป็นคนกลัวผีมากๆ ค่ะ!