ตุ๊กตาผีเรามาต่อกันด้วย ความสยดสยองของบรรดาตุ๊กตาที่เชื่อว่าเป็นที่สิงสถิตย์ของบรรดาภูตผีกัน
เริ่มต้นกันที่ ตุ๊กตารัสเซีย Katja ที่มีเรื่องเล่าขานกันมาว่า..ตุ๊กตารัสเซีย Katja ได้มาจากตำนานของนางสนมแห่งพระเจ้าซาร์ เมื่อปี 1730 เรื่องเล่าว่า สนมนางนั้นตั้งครรภ์
และแน่นอนว่าเธอคาดหวังให้ลูกน้อยคลอดมาเป็นเด็กผู้ชาย แต่โชคร้ายเมื่อความจริงปรากฏว่าเด็กน้อยที่เพิ่งคลอดเป็นหญิง
และมีรูปร่างไม่สมบูรณ์ เด็กถูกเผาทั้งเป็น ด้วยความโศกเศร้า แม่เด็กนำเอาเถ้ากระดูกมาผสมกับดิน และทำเป็นตุ๊กตาเล่ากันต่อว่า ตุ๊กตาถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี นั่นเพราะมันนำมาซึ่งคำสาปจากเด็กน้อยที่ทุกข์ทรมานจากเปลวเพลิงมีเรื่องน่าขนลุกที่เล่ากันว่า ถ้าคุณจ้องมองที่ตาของ Katja ประมาณ 20 วินาที Katja จะกระพริบตา
นั่นเป็นสัญญาณว่าคุณจะเจอเรื่องโชคร้าย แล้วใครล่ะ จะใจกล้าพอที่จะทำเช่นนั้น
มีคนพยายามประกาศขาย Katja ทาง ebay แต่ภายหลัง ebay สั่งระงับการขายนั้น เนื่องจากมีเหตุการณ์ประหลาดๆ
เกิดขึ้นมากมาย จากการประกาศดังกล่าว“เเมนดี้” เป็นตุ๊กตาผีขี้เล่น สาว น้อย “แมนดี้” หรือ “มิเรียนด้า” เป็นหนึ่งในศิลปะวัตถุที่อยู่ใน พิพิธภัณฑ์ “เควสเนล” ประเทศแคนาดา
แต่ทว่าศิลปะวัตถุชิ้นนี้ขี้เล่นมากไปหน่อย“แมนดี้” ถูกหญิงสาวผู้หนึ่งบริจาคให้กับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งแต่ปี 1991 ซึ่งในตอนนั้นสภาพของเธอแทบจะดูไม่ได้เลย
เสื้อผ้าก็กะรุ่งกะริ่งแถมร่างกายก็มีรอยฉีกขาดอยู่เต็มไปหมด เจ้าของเดิมของ “แมนดี้” เล่าว่า เธอมักจะตื่นมากลางดึก
พร้อมได้ยินเสียงเด็กร้องไห้สะอึกสะอื้นจากห้องใต้ดิน เธอจึงเดินตามหาเสียงร้องโหยหวนนั้นไป แต่กลับพบเพียงหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ ทั้งๆที่เธอปิดหน้าต่างไว้ดีแล้ว แต่หลังจากที่ผู้บริจาคยก “แมนดี้” ให้กับพิพิธภัณฑ์
เธอก็ไม่เคยได้ยินเสียงร้องนั้นอีกเลย หลายคนมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ยังบอกด้วยว่า พวกเค้าเคยเห็น “แมนดี้” กะพริบตา
และจ้องมองพวกเค้า ส่วนเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ก็มักจะเห็นเธอไปโผล่อยู่ตามห้องต่างๆแอนนาเบล สุดนตามมาด้วยเรื่องเล่าเกี่ยวกับตุ๊กตา “แอนนาเบล สุดน” ในปี 1970 มีคุณแม่ใจดีผู้หนึ่งซื้อตุ๊กตา “เร็กเกดี้แอนด์” (Raggedy Doll)
ขนาดเท่าเด็ก 4 ขวบ (ที่มีผมเป็นไหมพรมสีแดงและใส่ชุดเอี้ยม) เป็นของขวัญวันเกิดให้กับลูกสาวของเธอ ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้น
ของความอาถรรพณ์ระดับตำนาน“แอนนาเบล”เป็นตุ๊กตา ที่มีความชั่วร้ายมาก จนต้องนำไปขังไว้ในกล่องแก้วที่พิพิธภัณฑ์ “ออคคัลท์” ของ “เอ็ด วอร์เรน”
ชายผู้หลงใหลในเรื่องเหนือธรรมชาติ เรื่องเล่ากล่าวไว้ว่า “เอ็ด” ได้ตุ๊กตาตัวนี้มาจากบาทหลวงที่ติดต่อขอความช่วยเหลือจากเค้า เนื่องจากมีพยาบาลสาว 2 คน “ดอนน่า” และ “แองจี้” ได้เจอกับวิญญาณของคนที่สิงสู่อยู่ในร่างตุ๊กตาที่แม่ของ “ดอนน่า”
ซื้อให้เป็นของขวัญ พยาบาล ทั้ง 2 คน เล่าว่า “แอนนาเบล” ย้ายที่ไปเรื่อย ทั้งที่มันถูกตั้งไว้บนชั้นวางของ หลังจากนั้นไม่นาน
ตุ๊กตาตัวนี้ ก็เริ่มมีท่าทางเหมือนกับมนุษย์ ทั้งคู่รู้สึกเหมือนโดน “แอนนาเบล” จ้องมองตลอดเวลา และในที่สุดมันก็ค่อยๆ
ทำร้ายพวกเธอจนต้องขอความช่วยเหลือจาก “เอ็ด วอร์เรน”
ทุกวันนี้ “แอนนาเบล” ก็ยังไม่หยุดความซนไว้เพียงเท่านี้ เพราะมีรายงานว่า ทุกๆอาทิตย์ เธอยังคงออกมาจากกล่อง
และสร้างความสยองให้กับคนที่เข้าชมพิพิธภัณฑ์ฮาโรลด์ ผีตัวแรกของอีเบย์เรื่องเล่าถัดมา “ฮาโรลด์ ผีตัวแรกของอีเบย์” “ฮาโรลด์” ถือว่าเป็นตุ๊กตาผีสิงตัวแรกที่ถูกนำมาประมูล
ในเวปไซต์ “อีเบย์” เลยก็ว่าได้ คนขายกล่าวว่ามันถูกสร้างขึ้นในปี 1930 และถูกนำมาใช้ในการแสดงหนังสั้น
ซึ่งหลายคนเห็นว่ามันค่อยๆขยับร่างกายได้เองจากนั้น “ฮาร์โรลด์” ก็กลายมาเป็นตุ๊กตาผีสิงที่มีชื่อเสียง ทั้งใน Internet และบทความตามหน้าหนังสือพิมพ์
ต่างก็พูดถึงความน่าสะพรึงกลัวของมันไม่ว่าจะเป็นเรื่องคลิปวิดีโอของ “ฮาโรลด์” ที่มีเสียงหมุนนิ้วมือขวา ทั้งๆ ที่วัสดุตรงนิ้วมือเป็นของแข็ง
อย่างไรก็ตามเจ้าของคนใหม่ของ “ฮาโรลด์ ผีสิง” ได้นำมันไปซ่อมแซมให้เหมือนใหม่ จนทำให้หลายคน
อยากพิสูจน์ว่าจริงๆ แล้วมันมีผีสิงหรือไม่?
คำตอบของผู้ครอบครองเจ้าตุ๊กตาผีตัวนี้คือ “ไม่มีอะไรที่จะพิสูจน์ได้”"เมอร์ซี่ ผีเด็ก""เชอร์รี่ คุน"เป็นเจ้าของตุ๊กตาหน้าตาน่ารักสูง 45 เซนติเมตรที่คาดว่าจะมีวิญญาณของเด็ก7 ขวบสิงอยู่
ตั้งแต่เธอประมูลมันมาจากเวปไซต์อีเบย์ ก่อนหน้านี้ "เชอร์รี่" เคยคิดว่า
เรื่องตุ๊กตาผีพวกนี้เป็นเพียงเรื่องสยองขวัญในหนังฮอลลีวู้ดเธอจึงประมูลตุ๊กตาตัวนี้เพื่อทำการพิสูจน์ความจริงเมื่อ "เชอร์รี่"ได้ตุ๊กตามาเธอก็ทำการตรวจสอบมัน โดยการถ่ายภาพและใช้กล้องวิดีโอ
อัดภาพ "เมอร์ซี่" ทั้งวันทั้งคืน ในที่สุดตุ๊กตา"เมอร์ซี่" ก็แผลงฤทธิ์ให้เธอเห็นในตอนกลางดึก
หลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จ จู่ๆวิทยุในห้องก็เปิดขึ้นเองและเปลี่ยนคลื่นไปมาเรื่อยๆหลังจากนั้นอีก 2 วัน "เชอร์รี่"ตื่นขึ้นมาและพบว่า ตุ๊กตาหล่นจากตู้ แต่ไม่ได้หล่นมาในท่านั่ง
เพราะเจ้าตัวนี้หล่นลงมาแล้วยืนอยู่บนขาของตัวมันเอง
เรื่องพิศวงก็ยังคงมีมาไม่หยุดไม่หย่อน แต่"เชอร์รี่"ก็ยังคงเก็บตุ๊กตานี้ไว้เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับมัน
แม้ว่าเธอจะรู้สึกแปลกๆทุกครั้งที่"เมอร์ซี่"อยู่ใกล้ๆ คิคุโกะและอีก 1 เรื่องเล่า เป็นตำนานของญี่ปุ่น ชื่อตุ๊กตา “คิคุโกะ” ตุ๊กตาตัวนี้อยู่ที่วัดมันเนน หมู่บ้านคุริซาว่า อ.โงจิ ฮอคไกโด
เด็กหญิงเจ้าของตุ๊กตาชื่อว่า “คิคุโกะ”คิคุโกะรักตุ๊กตาตัวนี้มาก ป้อนข้าวป้อนน้ำนอนด้วยกัน หลังจากนั้นคิคุโกะก็ได้ป่วยและเสียชีวิตลง พ่อและแม่ของเธอ
จึงนำตุ๊กตานี้ไปไว้กับป้ายวิญญาณของเธอเพื่อให้อยู่เป็นเพื่อนเล่น ตุ๊กตาที่แต่เดิมผมสั้นกลับมีผมยาวลงมาจนเลยไหล่
คิคุโกะจังตายมานานกว่า 60 ปีแล้ว นอกจากผมที่ยาวได้แล้ว ปากของตุ๊กตาที่เคยหุบสนิท กลับเปลี่ยนเป็นเผยอยิ้ม
ขึ้นมาด้วยปัจจุบันที่วัดมันเนนในวันที่พระอาทิตย์ข้ามเส้นศูนย์สูตร ทำให้กลางวันยาวเท่ากับกลางคืน ได้ถูกกำหนดให้เป็นวัน “ตุ๊กตาคิคุ”
ซึ่งจะมีพิธีการตัดผมที่ปรกหน้าตุ๊กตาออก และเปลี่ยนกิโมโนให้ใหม่ หลังจากนั้น ผมที่ตัดแล้วก็ยังคงยาวใหม่อยู่เสมอ
วันที่ 21 มีนาคมของทุกปี จะมี “พิธีตัดผม” ของตุ๊กตา"ตุ๊กตาผี อลิส"แมรรี่ฟอร์ด เป็นเจ้าของเป็นตุ๊กตาผีสิงตัวนี้ เธอเล่าว่าสายตาของเธอตุ๊กตาอลิส
จะมองตามคุณไปรอบๆห้อง และจะแสดงสีหน้าเมื่อเธอไม่ชอบคุณ
และในยามค่ำคืนจะได้ยินเสียงกรีดร้อง
"ตุ๊กตาจูเลียต" เอมิเลีย ตุ๊กตาผีจากอิตาลี เป็นตุ๊กตาที่พ่อชาวอิตาลีมอบให้กับลูกสาวเพื่อเป็นของขวัญ
แต่เนื่องจากเกิดสงคราม ลูกสาวเขาเสียชีวิต ตุ๊กตาตัวนี้สูญเสียแขนทังสองและหนังศรีษะ
แม่ของเธอเชื่อว่าตุ๊กตาตัวนี้มีวิญญาณของลูกสาวสิงอยู่
cradit :: yenta4.com