ผมโดนกลั่นแก้ง!“บังยี”ตัดพ้อทำคุณบูชาโทษ
จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นของ“บังยี”วรวีร์ มะกูดีนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯที่ถูก บ.แด-อัน 21 จากประเทศเกาหลีใต้ฟ้องศาลข้อหาฉ้อโกง หลังชักชวนทำธุรกิจร่วมกันมอบหมายให้ดูแลผลประโยชน์เรื่องสปอนเซอร์และลิขสิทธิ์ต่างๆ ของฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกพร้อมโอนเงินไปแล้วจำนวน 900,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 28.8 ล้านบาท) ตั้งแต่ปี 2550 สุดท้ายกลับไม่ได้ดำเนินการใดๆ และเรื่องที่กรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบสภาผู้แทนราษฎร์ หรือ กมธ. โดยศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อโฆษกพรรคภูมิใจไทยได้ส่งหนังสือเรียกตัว"บังยี"ให้เข้ามาชี้แจงพร้อมข้อมูลเอกสารเกี่ยวกับการเสียภาษีในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ และได้เรียกบมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัดในฐานะผู้ดูแลสิทธิประโยชน์และอธิบดีกรมสรรพากรเข้ามาชี้แจงพร้อมกันในวันดังกล่าวด้วย
ล่าสุดนายกบอลไทยได้เชิญสื่อมวลชนมาที่ นสพ.ข่าวสดเพื่อแถลงข่าวชี้แจงเรื่องราวต่างๆท่เกิดขึ้นโดยบอกว่าทุกอย่างเกิดจากการถูกกลั่นแกล้งและดิสเครดิตตนเองให้เสียชื่อเสียง ดังนั้นได้ตั้งทีมกฎหมายและจะฟ้องกลับหากเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมพร้อมต้อพ้อว่าที่ผ่านมาทำเพื่อบอลไทยมาโดยตลอดแต่กลับถูกย้อนกลับด้วยการทำให้ตนเองเสียงชื่อเสียง
“เรื่องที่บริษัทจากต่างประเทศฟ้องมานั้นเป็นเรื่องที่ถูกบิดเบือนจากความจริงและแน่นอนว่าเป็นการดิสเครดิตอย่างเห็นได้ชัดเพราะหากจะฟ้องก็ควรว่าไปตามกระบวนกฎหมาย ไม่ใช่โทรฯบอกสื่อฯและให้ลงข่าวเช่นนี้”
“เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นมา 5-6 ปีแล้ว และเหตุใดถึงเพิ่งจะมีเรื่องราวเกิดขึ้น เหมือนอย่างที่เรื่องที่ดินที่หนองจอกผมได้บริจาคที่ดินส่วนตัวเพื่อสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลฯและหาว่าผมเอาเงินฟีฟ่ามาใช้แต่พอตรวจสอบผมก็ทำถูกต้องซึ่งนี่คือสิ่งที่ดิสเตรดิตกันชัดๆ”
“ผมไม่ชอบทะเลาะกับใครแต่เมื่อถูกกลั่นแกล้งก็คงต้องตอบโต้และผมได้ตั้งทีมกฎหมายเพื่อรวบรวมข้อมูลและฟ้องกลับ”
ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อว่าเงินที่ บ.แด – อัน 21 โอนมาให้เป็นเรื่องจริงหรือไม่? นายกบอลไทยกล่าวว่า “โอนให้ใคร?นี่คือสิ่งที่บิดเบือนและผมไม่รู้ว่าเงินนั้นถูกโอนมายังไง”
ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อว่าทราบหรือไม่ว่าใครเป็นคนกลั่นแกล้ง? “บังยี” กล่าวว่า “ไม่ทราบ! แต่จะสืบหาเพราะคงมีหลายคน”
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าท้อหรือไม่กับเรื่องที่เกิดขึ้น? “บังยี”ตอบว่า “ผมทำคุณงามความดีให้วงการฟุตบอลไทยมาเยอะและทำงานหนักมาโดยตลอด ผมยอมรับว่าผลงานของทีมชาติไทยใน 2-3 ปีหลังอาจไม่ดีแต่เราพยายามทำให้บอลไทยแข็งแกร่งด้วยการจ้างโค้ชระดับโลกและเสียเงินจ้างปีละ 30-40 ล้านบาท”
“นอกจากนั้นในยุคของผมทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังพาทีมชาติไทยเป็นแชมป์ซีเกมส์ 8 สมัยติดต่อกันและไม่เคยมีใครทำได้ ทีมระดับโลกก็ยังทำไม่ได้”
“เรากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงของฟุตบอลลีกและสโมสรยังบริหารทีมไม่สอดคล้องกับทีมชาติฉะนั้นต้องใช้เวลา”
ต่อคำถามที่ว่า กมธ.เรียกตัวให้ไปชี้แจงวันที่ 30 สิงหาคมนี้ “บังยี” บอกว่า “ผมไปแน่นอนแต่ที่แปลกใจคือทำไมถึงต้องเรียกให้ไปชี้แจง เรื่องนี้เป็นเรื่องของสมาคมฟุตบอลฯจะหาบริษัทเอกชนมาดูแลสิทธิประโยชน์ซึ่งไม่เกี่ยวกับภาครัฐเลย”
“ตอนที่ฟุตบอลไทยยังไม่บูมขนาดนี้ไม่มีใครกล้ามาสนับสนุนแต่ผมก็ได้เจรจากับ บมจ.สยามสปอร์ตฯ เพื่อให้เข้ามาช่วยจนฟุตบอลไทยบูมสุดขีด ซึ่งหากวันนึงขาดทุนอยากถามว่าจะมีใครกล้ามาตรวจสอบมั้ย?”
ทั้งนี้ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ นายชอย ดอง อุล ตัวแทนผู้รับมอบจากบริษัท แดอัน 21 จำกัด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท แดอัน ย็อนอัพ จำกัด) ประจำประเทศเกาหลีใต้ พร้อมด้วยนายศุภชัย ช่วยเวชและทีมงานทนายความประจำบริษัท นำเอกสารหลักฐานยื่นคำฟ้องต่อศาลคดีอาญาในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง
โดยมีสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นจำเลยที่ 1 และ นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นจำเลยที่ 2 หลังทางบริษัทถูกชักชวนให้มาลงทุนทำธุรกิจการตลาดกีฬา มอบหมายให้ดูแลผลประโยชน์เรื่องสปอนเซอร์และลิขสิทธิ์ต่างๆ พร้อมโอนเงินไปแล้วจำนวน 900,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 28.8 ล้านบาท) ตั้งแต่ปี 2550 สุดท้ายกลับไม่ได้ดำเนินการและการติดต่อใดๆกลับมา
http://www.ssballthai.com/tpl/viewtopic.php?f=2&t=5154