แม่แจ้งความลูกสาววัย 14 ถูกหลอกไปทำงานเป็นเด็กนั่งดริ้ง
นางสุบงกช รัตนาภรณ์ อายุ 41 ปี ได้เดินทางมาที่ สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ให้เอาผิดกับร้านคาราโอเกะที่นำเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี มาทำงานเป็นพนักงานรับแขก - นั่งดริ้ง เนื่องจากพบว่าลูกสาวของตนเอง คือ ด.ญ.แตง (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม. 2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ถูกหลอกลวงให้เข้าไปทำงานในร้านคาราโอเกะดังกล่าว แต่ พ.ต.ท.จีรศักดิ์ ธีนานุรักษ์ พนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง แจ้งว่าต้องนำเด็กมาสอบปากคำด้วย จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และนัดหมายให้นำตัวลูกสาวมาสอบปากคำในเวลา 10.00 น. วันพรุ่งนี้ ( 10 ต.ค.)
นางสุบงกช เล่าว่า ไม่ทราบว่าลูกสาวมาทำงานพิเศษที่ร้านคาราโอเกะ ทราบแต่ว่าลูกออกไปทำงานช่วงปิดเทอมเท่านั้น เพราะลูกสาวอาศัยอยู่กับพี่สาวของตนเองซึ่งเป็นป้าที่บ้านพักในตัวเมือง เชียงใหม่ จนกระทั้งลูกสาวคนเล็กเล่าให้ฟังว่าน้องแตง ไปทำงานที่ร้านคาราโอเกะหลังปิดเทอมได้ประมาณ 10 วันแล้ว ครั้งแรกคิดว่าคงทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ แต่หลังจากสอบถามพี่สาวได้แนะนำให้มาดูที่ร้านคาราโอเกะ ชื่อ"โรสคาราโอเกะ" ตั้งอยู่เชิงสะพานนวรัฐ ถ.เจริญเมืองต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่
เมื่อเดินทางมาถึงยังไม่พบลูกสาว จึงเดินเข้าไปภายในร้านพบเด็กสาวประมาณ 10 คนกำลังนั่งอยู่รอให้แขกที่เข้ามาใช้บริการเลือก และเห็นลูกสาวของตนเองนั่งรวมอยู่ด้วย เมื่อเห็นดังนั้นรู้สึกตกใจมาก เพราะลูกสาวสวมเสื้อเกาะอก และกระโปรงสั้น จึงตรงเข้าไปพูดคุยและต่อว่า ระหว่างนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งแสดงตัวเป็นผู้จัดการร้านเข้ามาพูดคุย และบอกว่าน้องมาทำงาน เพราะมีปัญหาเรื่องเงินต้องการหาเงินไปจ่ายค่าเทอม
นอกจากนี้หญิงคนดังกล่าวยังบอกกับตนเองว่า ไม่ได้บังคับให้น้องแตง มาทำงาน แต่เด็กยินยอมมาเอง จึงเป็นการสมยอมระหว่างทางร้านและเด็กร้านจึงไม่มีความผิด ซึ่งน้องบอกว่าต้องการมาทำงานหาเงิน ร้านจึงอยากช่วยจึงรับไว้ทำงาน
นางสุบงกช กล่าวอีกว่า ตนเองพยายามสอบถาม และพูดคุยกับลูก และชวนลูกกลับบ้าน แต่หญิงสาวที่อ้างตัวเป็นผู้จัดการร้าน หันไปพูดกับน้องแตงว่า น้องต้องการมาทำงานกับทางร้านเอง ไม่ได้ถูกหลอกหลวง ระหว่างนั้นมีชาย 2 คนอ้างตัวเป็นตำรวจเข้ามาเคลียร์ และบอกว่าเป็นคนดูแลที่นี่เอง ตนจึงตัดสินใจจะนำลูกสาวมาแจ้งความ แต่น้องแตงกลับวิ่งหนีออกจากร้านไป จึงเดินทางมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเอาผิดกับสถานบันเทิงที่รับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าทำงาน
"ดิฉันยอมรับว่า มีปัญหาติดค้างค่าเทอม แต่ได้เคลียร์กับทางโรงเรียนแล้ว และที่ผ่านมาก็รับผิดชอบเรื่องค่าเทอมของลูกมาโดยตลอด สังคมปัจจุบันนี้เสื่อมโทรมและเลวร้ายมาก จึงอยากให้เจ้าหน้าที่จัดการกับสถานบันเทิงที่ทำลายเยาวชนและสังคม"นางสุ บงกช กล่าว
ที่มาของข่าว คมชัดลึก