คุณสมบัติของผู้นำที่ผมเกริ่นไปแล้ว 4 ข้อใน ?บิสิเนสไทย? ฉบับที่แล้วคือ 1. ความสนใจใฝ่รู้ 2. ความคิดสร้างสรรค์ 3. ความสามารถในการสื่อสาร และ 4.ต้องมีจรรยาบรรณ ซึ่งฝากเอาไว้ให้ผู้อ่านทุกท่านก่อนที่เราจะมีโอกาสเลือกผู้นำกันอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้
ต่อกันในข้อที่ 5 คือ ความกล้าที่ต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริง ซึ่งผมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่
ในวันนี้ต้องการผู้นำที่กล้าบอกความจริงกับประชาชนแม้ว่าความจริงนั้นจะทำให้เสียความนิยม หรือทำให้ภาพลักษณ์ตกต่ำลงก็ตาม
นโยบายหลายๆ อย่างที่ผู้นำต้องประกาศใช้ ไม่ว่าจะเป็นระดับองค์กรหรือไปถึงระดับประเทศย่อมไม่มีทางที่จะถูกใจคนทุกคน แต่หากเป็นผู้นำที่กล้าพอแล้ว แม้จะรู้ว่านโยบายนั้นขัดกับคนส่วนหนึ่งแต่หากเป็นประโยชน์ต่อคนส่วนรวมก็ต้องเดินหน้าต่อไป
สำหรับโลกธุรกิจการจะตัดสินใจในสถานการณ์ที่องค์กรเข้าสู่วิกฤติ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือหาทางจำกัดปัญหาไม่ให้อยู่เหนือเรา และอย่าให้ปัญหาครอบงำเรา แต่ต้องหาทางทำให้ปัญหานั้นเด่นชัดขึ้นมาให้ได้ ทั้งในแง่การรับรู้ การมองเห็น ซึ่งจะทำให้การตัดสินใจกับปัญหานั้นง่ายขึ้น
ข้อ 6. การสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นให้ได้ โดยผู้นำที่ดี ก่อนจะให้คนอื่นเชื่อ ตัวเราต้องเชื่อตัวเองก่อน และความเป็นผู้นำต้องมีจิตใจกระตือรือร้น และความหิวโหยที่จะทำให้เกิดสำเร็จเกิดขึ้น ซึ่งความทุ่มเทก็จะตามมา
ความเชื่อถือเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่ผู้นำต้องทำความรู้จัก และเข้าใจให้มากที่สุด เพราะความเชื่อมั่นหากสร้างได้มากขึ้นจนถึงขั้นศรัทธาเช่นเดียวกับในศาสนาแล้ว โอกาสที่ผู้นำจะนำประเทศหรือองค์กรไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ข้อ 7. มีอิทธิพลต่อคนรอบข้าง โดยผู้นำต้องมีบุคลิกในการสร้างอิทธิพลต่อคนจำนวนมากเพื่อให้ความคิดของเขาแพร่กระจายออกไป ก่อให้เกิดเป็นความศรัทธา ซึ่งจะทำให้คนอยากติดตามในเนื้อหาสาระของเขาอยู่ตลอดเวลา และกระตุ้นให้คนส่วนใหญ่คิดไปในทางเดียวกันได้
อิทธิพลแบบนี้เราเห็นได้ทุกๆวงการ เช่นนักร้อง ในคอนเสิร์ตก็มักจะกระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนร่วม คือร้องและเต้นไปด้วย เป็นส่วนหนึ่งของการเกิดการมีส่วนร่วมและทำให้คนดูทุกคนรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการแสดงคอนเสิร์ตนั้น
เช่นเดียวกับผู้นำที่ต้องมีความสามารถในการนำให้ทุกคนเกิดความมีส่วนร่วม ซึ่งจะสร้างให้เกิดอิทธิพลที่แท้จริง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคืออดีตรองประธานาธิบดีอัล กอร์ ซึ่งเดิมไม่มีใครเชื่อเขาในเรื่องสิ่งแวดล้อม เขาจึงทำเป็นภาพยนตร์และเผยแพร่ไปทั่วโลก ก่อให้เกิดการตื่นตัว จนตัวเขากลายเป็นคนที่มีอิทธิพลสูงสุดในด้านสิ่งแวดล้อมในทุกวันนี้
ข้อ 8. ต้องมีความสามารถในการบริหาร ซึ่งต้องรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ และมีอะไรที่สำคัญกว่านี้หรือไม่ รวมถึงต้องให้คนรอบข้างรู้ว่าเรากำลังทำอะไรด้วย โดยความสามารถในการบริหารของผู้นำ ต้องลงลึกไปจนถึงระดับปฏิบัติการ ให้ทุกคนรู้จักหน้าที่ตนเอง และทำทุกอย่างเพื่อส่วนรวมได้
ข้อสุดท้าย ต้องมีความรู้ทั่วไป เพราะความเป็นผู้นำต้องเป็นคนที่มีความสามารถที่จะสื่อสารกับคนอื่นได้ และต้องสามารถเข้าใจคนอื่นได้ เพื่อให้คนอื่นสามารถเข้าใจเราได้เช่นกัน จึงต้องมีความคิดเป็นระบบ
โดยที่สำคัญที่สุดต้องมีความรู้ทั่วไป เพราะถ้าไม่รู้ว่ากระแสของโลกไปทางไหน ก็ย่อมไม่รู้ความเป็นมาเป็นไปของสิ่งต่างๆรอบตัว เช่น ถ้าหากเราไม่รู้จักชาวไร่ ชาวนา แล้วจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการเกษตรฯ ได้อย่างไร
โลกเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก ผู้นำต้องรู้ความแตกต่าง และต้องหาความเหมือนที่แตกต่างของสังคมให้เจอ ซึ่งนั่นเป็นความท้าทาย เพราะแต่ละคนล้วนมีบุคลิกลักษณะต่างกัน แต่สามารถหาความเหมือนได้ เพราะทุกคนมีผลประโยชน์ร่วมกัน
ถ้าสามารถเรียนรู้ซึ่งกันและกันเอาใจเขาใส่ใจเรา ซึ่งในโลกการตลาดก็คือการใช้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง แต่ในแง่การบริหารประเทศ คือต้องรู้คนที่เป็นประชาชนของเรา ถ้าเราเข้าใจเขามาก เขาก็มีโอกาสเข้าใจเราด้วย
คุณสมบัติทั้ง 9 นี้ อาจดูเหมือนยาก แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของโลกก็ล้วนมีคุณสมบัติทั้ง 9 ข้อนี้ด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งคงเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่านในโอกาสที่เราน่าจะได้ผู้นำใหม่ก่อนสิ้นปีนี้นะครับ
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ปฏิทิน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก