ผู้เขียน หัวข้อ: 10 สินค้าไอทีที่ล้มเหลว-หน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บ (อ่าน 769 ครั้ง)

etatae333

แต่ไหนแต่ไรมาเราคงเคยได้ยินว่า “ความล้มเหลว กับ ความสำเร็จ เป็นของคู่กัน” ประโยคนี้ใช้ได้กับทุกวงการ
ไม่เว้นแม้กับวงการเทคโนโลยีเช่นกัน สินค้าหลายๆชิ้นจากแบรนด์ดัง เมื่อมองย้อนกลับไปก็เคยล้มเหลวแบบ
ไม่เป็นท่ามาก่อน กว่าที่ผู้ผลิตจะนำเอาความล้มเหลวเหล่านั้นมาแก้ไขจนออกผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้ เราใช้ได้อย่างทุกวันนี้

เว็บไซต์ http://www.alltime10s.com/ ได้จัดทำ 10 อันดับเทคโนโลยีที่ล้มเหลว ชนิดหน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บ
ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย

ที่มา : แหล่งที่มา:sanook.com

10. “ASIMO” (เปิดตัวปี 2006)

สำหรับหุ่นยนต์ ASIMO นี้คาดว่าหลายคนน่าจะรู้จักกันดี เพราะตอนที่เปิดตัวนั้นเป็นข่าวที่ดังมากทีเดียว แต่ในงานแสดงวันหนึ่ง
ขณะสาธิตการเดินขึ้นบันได เจ้าหุ่น ASIMO กลับแข็งทื่อซะเฉยๆแล้วก็หงายหลังล้มกลิ้งลงมา

<a href="http://www.youtube.com/v/VTlV0Y5yAww" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/VTlV0Y5yAww</a>

9. “Microsoft ZUNE” (เปิดตัวปี 2006)

เครื่องเล่น MP3 จากฝั่งไมโครซอฟท์ที่เปิดตัวตามหลัง iPod อยู่ 3 ปี แม้ตัวเครื่องเล่นจะไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เพราะการเปิดตัว
ที่ล่าช้าตามหลัง iPod อยู่นาน ทำให้ Microsoft ZUNE ไม่สามารถประสบความสำเร็จ และต้องหยุดผลิตไปในปี 2011

<a href="http://www.youtube.com/v/3psd0AFAquU" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/3psd0AFAquU</a>

8. “แบตเตอรี่โน้ตบุ๊ค Dell ระเบิด” (ปี 2006)

Dell ต้องเรียกคืนโน้ตบุ๊คถึง 4 ล้านเครื่องคืน เพราะแบตเตอรี่ระเบิดและลุกไหม้เป็นไฟกลางงานสัมมนาหนึ่งที่ญี่ปุ่น

7. “Apple Newton” (เปิดตัวปี 1993)

เครื่อง PDA ยุคแรกๆของแอปเปิลที่ล้มเหลวเพราะราคาเปิดตัวที่ค่อนข้างแพง และระบบแปลลายมือเขียนที่ผิดพลาดอยู่บ่อยๆ

<a href="http://www.youtube.com/v/w3FuTpWbmCQ" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/w3FuTpWbmCQ</a>

6. “IBM PC jr” (เปิดตัวปี 1984)

ด้วยราคาที่ไม่จัดว่าถูกสมกับความตั้งใจที่จะทำคอมพิวเตอร์ราคาถูก ประสิทธิภาพที่ไม่ค่อยดี และแป้นคีย์บอร์ดที่เล็กมาก
พิมพ์ได้ไม่ถนัดมือ ทำให้ IBM PC jr กลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่ล้มเหลวมากที่สุดตัวหนึ่งในประวัติศาสตร์ของ IBM

<a href="http://www.youtube.com/v/HaLXHjI9VWM" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/HaLXHjI9VWM</a>

5. “Power Glove” (เปิดตัวปี 1989)

Power Glove คือจอยเกมส์แบบสวมมือของทาง Nintendo ที่มีแต่คนบ่นอุบว่าใช้งานได้ยากมาก และยังมีเกมออกมา
รองรับแค่ 2 เกม จึงไม่แปลกที่จะล้มเหลวไม่เป็นท่าในที่สุด

<a href="http://www.youtube.com/v/SAKbtJjAV18" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/SAKbtJjAV18</a>

4. “Nokia N-gage” (เปิดตัวปี 2003)

Nokia N-gage เป็นมือถือที่เป็นเครื่องเล่นเกมพกพาในตัว สำหรับตัวนี้คิดว่าหลายๆคนน่าจะทันกัน ตอนแรกที่ออกมาใหม่ๆ
ก็เป็นที่ฮือฮาอยู่พอสมควร แต่ด้วยการดีไซน์หน้าตากดปุ่มที่ดูพิลึกๆสำหรับโทรศัพท์ และราคาที่ค่อนข้างแพง บวกกับกระแส
ของเกมบอยแอดวานซ์ SP เครื่องเล่นเกมพกพาของนินเทนโด ทำให้ยอดขายของ Nokia N-gage ไม่ดีอย่างที่คาด

<a href="http://www.youtube.com/v/RHz-vgxWJ04" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/RHz-vgxWJ04</a>

3. “Sharp’s RD3D Notebook” (เปิดตัวปี 2004)

Sharp’s RD3D Notebook เป็นโน้ตบุ๊คที่แสดงผลแบบสามมิติโดยไม่ต้องสวมแว่น แต่การแสดงผลสามมิติกลับทำได้ไม่ดี
และยังทำให้ผู้ใช้งานปวดหัวเมื่อจ้องนานๆอีกด้วย

2. “Microsoft BOB” (เปิดตัวปี 1995)

Microsoft BOB คือโปรแกรมที่เป็นผู้ช่วยสำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์มือใหม่ แต่ด้วยความที่มันดูน่ารักเกินไป และการใช้งาน
ค่อนข้างสับสน ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จและต้องยกเลิกไปในปี 1998

<a href="http://www.youtube.com/v/tcWSttLnNsY" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/tcWSttLnNsY</a>

1. “Sinclair C5” (เปิดตัวปี 1985)

รถสามล้อไฟฟ้าที่เคยเป็นความหวังว่าจะกลายเป็นยานพาหนะสำหรับอนาคตในตอน เปิดตัวใหม่ๆ แต่ด้วยความเร็วที่เร่งได้สูงสุด
เพียง 24 กิโลเมตร/ชั่วโมง ไม่มีเกียร์ ทำให้สามารถขายไปได้เพียง 17,000 ตัวจนต้องหยุดผลิตไปในที่สุด

ก็จบกันไปแล้วนะคะสำหรับ 10 อันดับสินค้าไอทีที่ล้มเหลวแบบสุดๆ จะเห็นได้ว่าสินค้าส่วนใหญ่ที่พูดถึงล้วนแล้วแต่มาจาก
แบรนด์ดังๆกันทั้ง นั้น แสดงให้เห็นว่าไม่ว่าใครก็เคยล้มเหลวเหมือนกัน แท้จริงความล้มเหลวอาจไม่ใช่เรื่องน่ากลัว
แต่สิ่งสำคัญคือเราได้อะไรจากความล้มเหลวในครั้งอดีตต่างหาก เหมือนที่โทมัส อัลวา เอดิสันเคยบอกว่า

“I have not failed. I’ve just found 10,000 ways that won’t work.”
(ผมไม่ได้ล้มเหลวนะ ผมได้ค้นพบ 1 หมื่นวิธีที่มันไม่ได้ผลต่างหากล่ะ)