-->

ผู้เขียน หัวข้อ: ตำนานผีญี่ปุ่น Part11  (อ่าน 1467 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18349
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
ตำนานผีญี่ปุ่น Part11
« เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2014, 12:35:28 »

1. โทะโดะเมะกิ หรือ ยักษ์ร้อยตา「とどめき」 (Todomeki)



โทะโดะเมกิ สมัยที่ยังเป็นมนุษย์นั้น เป็นสตรีที่รูปร่างหน้าตางดงาม แต่จิตใจต่ำช้า เป็นคนที่ชอบลักเล็กขโมยน้อย
ไม่เคยเปลี่ยนนิสัย ไม่เคยรู้สำนึก จึงถูกสวรรค์ลงโทษ ให้ตาปรากฏขึ้นที่แขน ทุกครั้งที่ทำผิด จนมีดวงตาเป็นร้อย ๆ ดวง
เต็มแขนไปหมด เพราะเธอไม่ยอมเปลี่ยนนิสัยนั่นเอง จึงต้องทนทุกข์เวทนาอย่างแสนสาหัส
 
ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่า ตาของโทะโดะเมกิ จะมองเห็นทะลุปรุโปร่งไปหมด ดังนั้น หากใครโชคร้าย ถูกมันไล่ตาม
ก็จะถูกหาพบทุกครั้ง ไม่ว่าจะหนีไปซ่อนในที่มิดชิดแค่ใดก็ตาม แต่ไม่เคยมีปรากฏว่ายักษ์ตนนี้ทำร้ายใคร
มีเรื่องเล่า (อาจจะเป็นเพียงคำขู่สอนเด็ก) ว่าถ้าใครทำผิดและแอบซ่อนความผิดนั้นไว้ จะมีตาขึ้นบนร่างกายทีละตา
และจะมีมาเรื่อยๆถ้าคนคนนั้นยังไม่ยอมหยุดทำและสารภาพออกมา



2. โชเคระ หรือ ปีศาจตุ๊กแก しょけら」(Shokera)



ปรากฏอยู่ในสมุดรวมภาพปิศาจของโทริยามะเซกิเอ็น เชื่อว่าเป็น "เทพวิบัติ" ชนิดหนึ่ง มีรูปร่างคล้ายตุ๊กแก
มีหนังเป็นเกล็ดหนา กรงเล็บและฟัน แหลมคม ตัวใหญ่เท่าคนออกหากินในวันที่มีงานบูชาเทพเจ้าโคชิน 
มันจะคอยมองลอดเข้าไปในหน้าต่างบ้าน  คนที่นอนเร็วในคืนนั้นและเล่นงานเมื่อมีโอกาสมันจะใช้เล็บ
ขูดผิวหนังของคน คนนั้นออกมากิน  ถ้าเห็นให้พูดว่า

"รู้นะว่าแอบมองอยู่"
แล้วมันก็จะหนีไป


3. ยามิโกะซัง 「やみこ さん」 (Yamikosan)



คนไทยจะไม่คุ้นชื่อนี้ แต่ถ้าบอกว่า มือขาวๆซีดๆ โผล่มาจากคอห่าน ก็คงจะพอนึกกันออกใช่มั้ย
ยามิโกะซัง เป็นรอยคราบคล้ายใบหน้าคนติดอยู่ที่โถส้วมในห้องน้ำห้องที่2 แม่ใครจะพยายามขัดคราบนี้
ออกไม่นานรอยคราบนี้ก็จะปรากฏขึ้นมาอีก ถ้าใครไปเข้าห้องน้ำตามลำพังตอนเย็นๆหรือกลางดึก
ในโรงเรียนแล้วพูดว่า

“ยามิโกะซังตื่นเถอะ...ยามิโกะซังตื่นเถอะ...”

ทันใดนั้นจะมีเสียงเคาะประตูห้องน้ำดังขึ้นทุกบานพร้อมกัน “ปังๆๆๆๆๆๆ!!!”
แล้วมือขาวซีดของ “ยามิโกะซัง” จะจับขาคุณ และลากคุณหายไป...



4. วิญญาณชู้รัก



ชายผู้หนึ่งชื่อว่า อิกะโนะ คาเนะมิตสุ 「いがの かねみっつ」ได้ลอบรักกับภรรยาม่ายของพี่ชายของเขาที่เสียชีวิตไป 
แต่รักครั้งนี้ผิดศีลธรรมประเพณีเพราะหญิงม่ายได้บวชเป็นชีไปแล้ว เมื่อ คิคุโนะ 「きくの」 ซึ่งเป็นเมียน้อยของพี่ชาย
กับ มะตะฮะชิ 「またはし」 ผู้รับใช้ของเธอ  ได้ล่วงรู้ถึงความลับนี้คาเนะมิตสุก็ได้สังหารคนทั้งสองเสีย

แต่แล้ววิญญาณของทั้งคู่ก็ได้กลับมาแก้แค้น โดยมุ่งหมายที่จะยุติทั้งความสัมพันธุ์และชีวิตของคาเนะมิตสุกับชู้รัก
ในเรื่องเช่นนี้ละครคาบุกิของญี่ปุ่นมักแสดงออกถึงความรู้สึกผิดชอบในใจของผู้กระทำผิดเอง 

แม้ว่าในพล็อตเรื่อง ชู้รักทั้งสองได้ถูกปีศาจคิคุโนะกับมะตะฮะชิ หลอกหลอน จนกระทั่งเสียสติและฆ่าตัวตาย
แต่แท้จริงแล้ว...ปีศาจคือความกลัวต่อบาปนั่นเองเมื่อหาทางสงบสติใจและอารมณ์ไม่ได้ ทางออกก็คือ

“การฆ่าตัวตาย”


5 โคมไฟนำทาง



เรื่อนี้เป็นหนึ่งในเจ็ดเรื่องพิลึกของ เอโดะฮนโจ 「えど ほんじょ」 ในกรุงโตเกียว โดยเรื่องมีอยู่ว่า...
ในคืนหนึ่งที่เงียบสงบของฤดูใบไม้ผลิ  ซามุไรคนหนึ่งเพิ่งกลับมาจากการสังสรรค์ที่ โยชิวะระหรือ อะกะกุสะ
โดยมากับผู้ติดตามคนหนึ่ง ขณะที่เดินทางตุปัดตุเป๋ด้วยอาการเมาหัวราน้ำไปบนถนน ผ่านหน้าประตูวัดโฮองจิ 「ほおんじ」

ผู้ติดตามของซามุไรที่เป็นคนขี้ขลาดก็นึกถึงแต่เรื่องที่เคยได้ยินมาบริเวณนี้และเกิดอาการสั่งเทาด้วยความกลัว
รั้งไม่ให้ผ่านทางนี้ แต่ด้วยความ “เมา” และเป็น “ซามุไร”ทำให้เขาไม่กลัวอะไร จึงเดินต่อไป และพบแสงไฟข้างหน้า 
เมื่อมองเห็นแสงไฟทำให้ใจของผู้ติดตามชื้นขึ้นมาบ้าง แสงไฟนั้นอยู่ในโคมไฟที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีลักษณะ
คล้ายคนรับใช้ถือไว้ในมือเธอเดินอยู่คนเดียวในทางที่เปลี่ยว ซามุไรจึงถามเธอว่า “จะไปที่ไหน”
เธอชี้ไปทางหนึ่งแล้วตอบว่า“ทางโน้นค่ะ...ท่านไม่มีโคมไฟหรือคะ? ดิฉันจะนำทางให้”
แล้วทั้งสามก็เดินไปคุยกันไปกระทั่งสิ้นสุดทางซามุไรก็ขอตัว เธอก็ของตัวเช่นกันแล้วแยกย้ายกันไป
ซามุไรคิดว่า ‘น่าจะมองส่งเสียหน่อย’ จึงหยุดและหันหลังเพื่อมองส่งเธอจนลับสายตาไป

ทว่า...ผู้หญิงคนนั้นได้หายไปแล้วเหลือไว้เพียงแต่ความมืด ผู้ติดตามจึงโพล่งขึ้นว่า “นั่นคือ ‘ไฟนำทาง’ ”
กล่าวกันว่า มันคือไฟพิศวงที่มักปรากฏเฉพาะต่อหน้าคนที่ไม่มีโคมไฟ จะเห็นเป็นดวงไฟติดๆ ดับๆ
ส่องสว่างอยู่เรื่อยๆลอยเรี่ยอยู่ด้านหน้า แม้จะเดินตามเท่าไหร่ก็จับไม่ได้

นับว่าเป็นปีศาจ ที่ใจดีและไม่น่ากลัวเลย


6. มิคะริบาบะ หรือยายแก่มิคะริ 「みかりばば」 (Mikaribaba)



ว่ากันว่า ยายแก่มิคะรินั้นชอบไปเยี่ยมตามบ้านต่างๆ ในแถบตะวันออก พร้อมกับผีเด็กชายตาเดียว
ทางภาคเหนือของเขตคะวะซะกิ เชื่อกันว่ายายมีคะริ มักจะมาเยี่ยมในช่วงวันที่ 8 ของเดือนกุมภา
และธันวาชาวบ้านมักจะนำเอาตะกร้ามาวางไว้ที่หน้าบ้าน แล้วก็จะอยู่แต่ในบ้านทั้งวัน ไม่ยอมออกไปไหน

คนที่อาศัยอยู่ทางใต้ของจังหวัดซึบะ เชื่อว่ายายมิคะริ จะมาเยือนในช่วงสิบวันคือตั้งแต่วันที่ 26 ของเดือนพฤศจิกา
ชาวบ้านจึงถือกันว่า ในช่วงนั้นไม่ควรทำงานใดๆแม้แต่งานในภูเขาหรือการทอผ้า ควรจะอยู่แต่ในบ้านทั้งวัน

แต่ที่เขตซึรุจิ ของจังหวัดโยะโคะฮะมะยายมิคะริจะชอบปรากฏตัวในช่วงวันที่ 25 ของเดือนพฤศจิกาถึงวันที่ 5 ของเดือนธันวา
คำว่า “มิ” ของ “มิคะริ” นั้นมาจากคำว่า “มิโนะ”ซึ่งแปลว่า “เสื้อกันฝนที่ทำจากฟาง” เพราะยายมิคะริจะชอบ
เคาะประตูบ้านแล้วพูดว่า “ขอยืมมิโนะหน่อย”

ว่ากันว่าใครที่อยากไล่ยายมิคะริไปก็เอาขนมดังโงะมาเสียบไว้ที่หน้าบ้าน เมื่อยายมิคะริเห็นขนมดังโงะแล้วก็
จะบ่นพึมพำอยู่คนเดียวแล้วก็จากไปคาดว่าเป็นเพราะขนมดังโงะมักจะนำไปใช้กับพิธีที่เกี่ยวข้องทางศาสนา
ในสมัยอดีตจึงทำให้ยายมิคะริเกรงกลัวก็อาจจะเป็นไปได้ นอกจากนี้ ถ้านำตะกร้าหรือกระชอนไปแขวนไว้
ที่หน้าบ้านยายมิคะริก็จะหนีหายไปทันทีทั้งนี้เพราะว่ายายมิคะรินั้นมีดวงตาเพียงดวงเดียวเมื่อมองเห็นตะกร้า
หรือกระชอนที่มีตาหรือรูเยอะๆก็จะเกิดอาการกลัวขึ้นมาก็อาจจะเป็นไปได้


7. โฮยะอุคะมุอิ หรือโฮยะอุคะมุย หรือ เทพเจ้างู 「ホヤウカムイ」 (Hoyaukamui)



ตามตำนานของชาวไอมุ จะเรียก “เทพเจ้างู” ว่า “โฮยะอุคะมุย”ซึ่งว่ากันว่าเป็นผู้ปกครองทะเลสาบ โดยเทพองค์นี้
จะมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “สิ่งที่ไม่ควรเอ่ยถึงในฤดูร้อน”ลักษณะลำตัวจะใหญ่เหมือนกระสอบทรายมีปีกงอกออกมาที่หลัง
ตัวกับหางเรียวเล็กตัวดำเมี่ยมทั้งตัว ขอบตากับปากมีสีแดง และมีจมูกแหลมเรียว

ว่ากันว่ามันจะส่งกลิ่นเหม็นออกตามร่างกายทำให้รู้ได้ทันทีว่าทะเลสาบนั้นมีมันอยู่คนที่ผ่านไปผ่านมายังทะเลสาบ
ที่มันอยู่นั้นมีชื่อว่า 「かむいと」คะมุยโตะ (หนองน้ำปีศาจ) ไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าไปใกล้

ในตำนานอีกเรื่องหนึ่งกล่าวไว้ว่าเทพเจ้าของทะเลสาบโทยะโกะ ก็เป็น “โฮยะอุคะมุย” เหมือนกันแต่รูปร่าง
เป็นเต่ามีปีกมากกว่า  ว่ากันว่าโฮยะอุคะมุยในทะเลสาบโทยะโกะนี้เป็นปีศาจที่ชั่วร้าย ชอบสร้างความเดือดร้อน
ให้กับมนุษย์ แต่ว่าบางครั้งก็ทำหน้าที่ปกป้องมนุษย์โดยการเข้าสิงหญิงร่างทรงแล้วบอกถึงสาเหตุโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ
ของมนุษย์ว่ากันว่ามันเคยไล่ปีศาจไข้ทรพิษด้วยกลิ่นของตัวเองมาแล้ว


8. โอะกะมุโมะโนะ หรือ ผู้เข้าทรง 「おかむもの」 (Okamumono)



มีเกาะมิยะเกะ ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดของหมู่เกาะอิซึเรียกร่างทรงเจ้าว่า “โอะกะมุโมะโนะ” กล่าวกันว่า
โอะกะมุโมะโนะนั้นทั้งดูดวงและรักษาโรคด้วยเขาไม่ได้เป็นร่างทรงตั้งแต่กำเนิด แต่เป็นหลังจากที่ถูกยักษ์เท็นกุ
ตัวใหญ่เข้าสิงเขาแล้ว

ในสมัยโชวะ ช่วงศตวรรษที่ 2 (พ.ศ. 2478 – 2487) โอะกะมุโมะโนะอายุประมาณ 50ปีอยู่ที่หมู่บ้านคะมิซึกิ
อยู่ในเกาะนั้น หญิงร่างทรงคนนี้ถูกยักษ์เท็นกุตัวใหญ่ของภูเขาฮากุโระ(สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดยะมะงะตะ)
เข้าสิงแล้วกลายเป็น “โอะกะมุโมะโนะ”วันหนึ่ง ขณะทีชาวบ้านหลายคนกำลังตัดต้นสนต้นใหญ่ที่อยู่ริมถนน
โอะกะมุโมะโนะคนนี้ก็ผ่านมาพอดีเตือนชาวบ้านว่า

“นี่คือต้นไม้ของยักษ์เท็นกุ ห้ามตัดเด็ดขาด!!!

แต่ชาวบ้านไม่สนใจ ยังคงตัดต้นสนนั้นต่อไป แต่ทำยังไง...ต้นไม้ก็ตั้งตรงไม่ยอมล้มซะทีพอชาวบ้านมารวมตัวกัน...
ต้นไม้กลับล้มลงกะทันหันด้วยเสียงน่ากลัวทำให้ชาวบ้านบาดเจ็บหลายคน

โดยทั่วไปคนถูกวิญญาณเข้าสิงจะมีจิตใจที่อ่อนแอ ขี้โรค แต่โอะกะมุโมะโนะส่วนใหญ่เมื่อถูกเข้าสิงแล้วจะมีจิตใจ
ที่เข้มแข็งกลายเป็นผู้ที่มีอำนาจเหนือมนุษย์ เช่น สามารถมองทะมุปรุโปร่งได้และสามารถรักษาโรคได้
ถือว่า “ยักษ์เท็นกุ”เป็นวิญญาณที่คล้ายเทพเจ้ามากกว่าปีศาจเสียอีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 กรกฎาคม 2014, 13:23:03 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

piryat

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 149
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-8
    • ดูรายละเอียด
Re: ตำนานผีญี่ปุ่น Part11
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2014, 20:19:17 »

ขอบคุณครับ
  pongz